สวัสดีครับ
Crucifer เอง! ตอนนี้กลับมาแล้วหลังจากพักหายไปเล่นเกมอื่นร่วมเดือนเพื่อเก็บข้อมูลมารีวิวเกม (ไปเก็บข้อมูลหาเกมมารีวิวจริง ๆ นะ
lol) ตอนนี้กลับมาแล้ว ขอประเดิมเริ่มกันด้วยอีเวนท์ประจำปีของ
Overwatch ที่กำลังจะหมดไปในอีกไม่กี่ชั่วโมง (อ้าว...) กับ
Overwatch Retribution ก่อนเลย เพราะเป็นอีเวนท์ว่าด้วยเนื้อเรื่องหลักของเกมที่จะมาปีละครั้งและคนรอคอยเยอะมาก มีอะไรน่าสนใจบ้างก็มาดูกันเลย
|
Mission Archives จะเป็นส่วนหนึ่งของ Arcade |
สิ่งแรกที่หลายคนสนใจคืออีเวนท์ ซึ่งจะมาในรูปแบบ Arcade เช่นเดิม และตอนนี้มันถูกรวมในส่วนที่เรียกว่า Mission Archives* ซึ่งจะแยกย่อยเป็น Uprising และ Retribution หากในอนาคตมีภารกิจเนื้อเรื่องใหม่ก็ไม่แคล้วถูกรวมในนี้แน่นอน รองลงมาที่ทุกคนสนใจคือ Archives Lootbox ซึ่งมีไอเทมใหม่มาให้เปิดสุ่มเหมือนเดิม
*หมายเหตุ Archives หมายถึง จดหมายเหตุ หรือ เอกสารสำคัญ
ในอีเวนท์
Overwatch Retribution จะเป็นเรื่องราวต่อจาก
e-Comic ในชื่อเดียวกัน อ่านได้
ที่นี่
|
Overwatch Retribution |
|
Blackwatch |
หลังจากเหตุการณ์ในคอมิค Gabriel Reyes หัวหน้าหน่วย Blackwatch ที่ตั้งใจเล่นนอกกฎได้รวมทีมรวมกับ McCree, Moira และ Genji ลอบเข้าเมือง Venice เพื่อไปนำตัว Antonio Bartalotti ชายผู้เชื่อมโยงถึงองค์กร Talon ที่อยู่เบื้องหลังการโจมตี Oslo มาดำเนินคดี
|
Antonio Bartalotti |
|
การตัดสินใจของ Reyes |
แต่ประเด็นคือ Reyes รู้อยู่แล้วการกระทำแบบนี้อุกอาจและจะทำให้หน่วย Blackwatch เป็นข่าวพร้อมออกสู่สายตาชาวโลก ส่วน Antonio มีเส้นสายพอที่จะเอาเขาออกจากห้องขังได้แน่นอน Reyes จึงตัดสินใจ "ฆ่าทิ้ง" เพื่อตัดปัญหาทั้งหมด หลังจากนั้นเกิดข้อกังขาของทีมถึงความวู่วามของ Reyes และทำให้ Blackwatch ต้องหลบหนีออกมา นั่นเป็นจุดเริ่มเรื่องราวของ Retribution
|
McCree ที่เริ่มกังขาในตัว Reyes |
|
"Well, looks like we're going with plan B." |
|
การสอบสวน Blackwatch หลังกลับจากภารกิจ |
ในท้ายที่สุด ผลลัพท์ของเรื่องนี้ก็จบไม่สวยอย่างที่ทุกคนคิด Blackwatch โดนสอบสวนและกลายเป็นข่าวซึ่งสร้างความขัดแย้งระหว่าง Overwatch กับความสัมพันธ์ระหว่างประเทศ Talon เองแม้จะเสียคนสำคัญไปแต่ก็มีคลื่นลูกใหม่เข้ามาแทนที่ ไม่ว่าอย่างไรผลลัพท์ก็เปลี่ยนทุกสิ่ง
อย่างที่ได้กล่าวไว้ตอนต้น Retribution จะอยู่ในส่วนของ Mission Archives ซึ่งจะแยกออกเป็น Uprising ของปีที่แล้วซึ่งยังเล่นได้เหมือนเดิมและ Retribution ของปีนี้ นอกจากนี้ยังแยกออกเป็น Story Heroes กับ All Heroes เหมือนเดิม
|
Uprising และ Retribution ที่แบ่งตามฮีโร่ที่ใช้เหมือนเดิม |
โดยใน Story หลัก เราจะได้เล่นเป็น 4 ฮีโร่ในเหตุการณ์คือ Reyes, McCree, Genji, Moira พวกเขาจะหลบหนีออกจากเมืองโดยให้เครื่องบินลำเลียงบินเข้ามาในเมืองตามจุดนัดพบ แต่ประเด็นคือ เพราะฝีมือ Reyes เลยต้องฝ่ากองทัพ Talon ที่โถมเข้ามา
|
ฉากเลือกตัวละคร Retribution Story |
ภารกิจของ Retribution ไม่ได้มีลูกเล่นพิเศษอะไรมากมายเหมือนกับ Uprising ที่เป็น Hybrid แต่เป็นเส้นตรงผ่านด่านเพื่อไปที่จุดนัดพบอย่างเดียว ลูกเล่นของภารกิจนี้เลยอยู่ที่ศัตรู เพราะ Talon เป็นองค์กรทหารรับจ้าง ทำให้พวกมันแต่ละตัวมีความพิเศษอยู่
|
Sniper, Assassin, Heavy Infantry |
Trooper ที่สามารถกลิ้งหลบได้ Enforcer ที่มีปืนแรงเป็นพิเศษ นัดเดียวอาจหลับได้ แต่เคลื่อนที่ช้า นอกจากนี้ยังมี 3 ตัวพิเศษ Sniper ที่ชาร์จยิง หากปล่อยไว้นานระยะเวลาชาร์จยิงจะสั้นลงและยิงแรงมาก Assassin ที่โดดไปมาระหว่างผนังและทิ้งตัวพุ่งเข้าหาเหยื่อเพื่อคร่อมและเชือดสังหารศัตรู สุดท้าย Heavy Infantry ตัวเอ้อาวุธหนักที่มีสกิลพุ่งชน แกตลิ่งที่รัวไม่ยั้งและเกราะหนาที่ถ้าไม่ยิงหัวหรือกระบอกพลังงานด้านหลังจะไม่สะทกสะท้าน
ผู้เล่นจะต้องฝ่าพวกทหารเข้าไปถึงจุดนัดพบ ซึ่งแต่ละระดับความยากจะมีการวางศัตรูแตกต่างกันไป แต่ส่วนของเนื้อเรื่องจะจำกัดศัตรูที่เจอตายตัว อยู่ที่วิธีรับมือของผู้เล่นและใช้พื้นที่ให้เป็นประโยชน์เพราะนอกจาก 3 Offenses และ 1 Support ก็ไม่มีตัวละครอื่นมาสมทบอีกเลย
ใน Retribution All Heroes จะเป็นอะไรที่โหดไปอีกแบบ เพราะแม้ว่าคุณจะเลือกตัวละคร (รวมถึงสกิน) ได้ตามใจอยาก แต่สิ่งที่แลกออกมาคือ การสุ่มตัวพิเศษ 1 ใน 3 ตัวตามพื้นที่บางจุด ผู้เล่นต้องรับมือกับไม่แน่นอนและแน่นอนว่าบางทีมันก็ยากขึ้นเพราะหลายอย่างไม่อำนวย ยิ่งเลือกตัวละครมาผิดนี่คือยิ่งพลาดเข้าไปใหญ่
|
Archives Lootbox |
อีเวนท์นี้ยังมี Lootbox มาเหมือนเคย แถมมีชื่อเรียกเป็นทางการแล้วว่า Archives Lootbox โดยครั้งนี้นอกจากไอเทมจาก Uprising ยังมีไอเทมใหม่จาก Retribution เพิ่มมาด้วย
|
สกินใหม่ทั้ง 8 สกิน |
และที่ทุกคนอยากได้แน่นอนคือ สกินใหม่ 8 สกิน ซึ่งเป็นสกินเนื้อเรื่องแน่นอน 4 สกินด้วยกัน และทุกสกินสวยมาก (ยกเว้นของ Mei ที่ไม่รู้จะเรียกว่าสวยดีหรือยังไงดี...)
ที่เหลือที่เปลี่ยนไปจะเป็นหน้าจอสถิติหลังจบเกมที่ทำมาเพื่ออีเวนท์โดยเฉพาะไม่ว่าจะ Uprising หรือ Retribution ก็เปลี่ยนไปทั้งคู่ และอาจใช้แบบนี้อีกในอนาคตปีถัดไป
ไม่ว่าด้วยเหตุใดก็ตาม มีการนำ
Play of the Game ออกจากอีเวนท์นี้หลังจบแมตช์แต่ละครั้งด้วย ทว่าความจริงแล้วมันไม่ได้หายไปไหนหรอก แค่ไม่เห็นตอนท้ายแมตช์ ผู้เล่นสามารถดู
Play of the Game ได้ ผ่าน
Highlight จากหน้า
Main Menu และสามารถเซฟวิดีโอได้เช่นเดิม
► อีเวนท์เนื้อเรื่องประจำปีที่เปลี่ยนจากเน้นวิธีการทำภารกิจเป็นเน้นวิธีการต่อสู้แทน
► มีการปรับ Mission Summary Interface สำหรับอีเวนท์และ Play of the Game
► สกินสวยมาก
ความคิดเห็น
แสดงความคิดเห็น