[Lore] [Diablo] [Chronicles of Sanctuary] #1 The Dawn of Creation - ปฐมบทของการสรรสร้างจักรวาล


        กาลครั้งหนึ่ง นานมาแล้ว... ก่อนทุกสรรพสิ่งจะรู้จักกาล มีเพียงความว่างเปล่า (Void) เพียงเท่านั้น ไม่มีสิ่งอื่นใดดำรงอยู่ ไม่ว่าจะเนื้อหนัง หิน อากาศ ความร้อน ความสว่าง ความมืด ที่กล่าวมานั้นไม่มีอยู่เลย เว้นเพียงแต่วัตถุทรงกลมไร้ตำหนิราวกับไข่มุกอยู่ท่ามกลางความว่างเปล่านั้น


        ในภวังค์ของไข่มุกนั้นมีจิตวิญญาณอยู่ดวงหนึ่งซึ่งกลายเป็นตัวตนเพียงหนึ่งเดียว (The One) นามว่า "Anu" รูปกายราวกับเพชรที่ส่องประกายของเขากอปรด้วยตัวตนของทุกสิ่ง ความดีและความชั่ว ความสว่างและความมืด รูปธรรมและนามธรรม ความชื่นชมยินดีและความเศร้า ทั้งหมดนั่นสะท้อนไปมาผ่านหน้าตัดแต่ละหน้าบนกายของเขา 


        แต่แล้วคราวหนึ่ง ขณะ Anu อยู่ในภวังค์ เขาตระหนักถึงภาพสะท้อนที่อยู่ภายในที่ขัดแย้งซึ่งกันและกัน ทำให้เขาปราถนาที่จะขจัดความขัดแย้งนี้และกลายเป็นตัวตนที่บริสุทธิ์และสมบูรณ์แบบเพียงหนึ่งเดียว สุดท้ายเขาจึงขับด้านชั่วร้ายซึ่งเป็นขั้วตรงข้ามกับอุดมคติของเขาออกทั้งหมด ใช่ Anu ได้กลายเป็นตัวตนแห่งความดีงามและความสมบูรณ์แบบดั่งความปราถนาของเขา แต่ความขัดแย้งที่ถูกขับไสออกมาเหล่านั้นจะเป็นอย่างไร? ความชั่วร้ายที่แผดเผาด้วยความเกลียดชังและความทะนงตนไม่อาจดำรงอยู่แยกย่อยเพียงลำพังได้ จึงดึงดูดเข้าหากัน รวมร่างสร้างกายหยาบใหม่กลายเป็นสัตว์ร้ายนามว่า "Tathamet"


        ในตำนานได้กล่าวว่า Tathamet คือความชั่วร้ายที่ขับออกจาก Anu ทั้งปวงมารวมกันสร้างกายหยาบใหม่กลายเป็นมังกรเจ็ดเศียรที่คอยพ่นลมหายใจของความมืดและความตายอย่างไม่มีวันสิ้นสุด ด้วยความที่เกิดจากความชั่วร้ายทั้งปวง มันจึงถูกขนานนามว่า "ความชั่วร้ายเพียงหนึ่งเดียว" (The Prime Evil) 


        ถึงทั้งคู่จะเกิดการแบ่งแยกออกมา แต่ต่างก็ยังอยู่ในครรภ์ไข่มุกใบเดียวกัน สุดท้ายจึงต่อสู้กัน เกิดเป็นสงครามของแสงและเงาอย่างยาวนานจนไม่อาจนับยุคสมัยได้


        นักรบประกายเพชรและมังกรเจ็ดเศียรต่างต่อสู้ขับเคี่ยวกันด้วยทุกสิ่งแต่ก็ไม่อาจโค่นล้มอีกฝ่ายได้ ในที่สุดจากการต่อสู้อันยาวนานเกินคณานับก็จบลงด้วยการโจมตีที่เค้นดึงพลังครั้งสุดท้ายของทั้งคู่ พลังจากการปะทะกันของการโจมตีครั้งสุดท้ายจากทั้งสองฝ่ายได้จุดระเบิดทำลายทั้ง Anu และ Tathamet รวมไปถึงทุกอย่างที่อยู่รายรอบและกลายเป็นจักรวาลก่อกำเนิดสิ่งต่าง ๆ นับจากนั้นเอง อาจกล่าวได้ว่า จักรวาลถูกสร้างขึ้นจากความตายของคู่ก็ว่าได้


        หลังจากการทำลายล้างก่อกำเนิดจักรวาล เศษซากของทั้งคู่ได้ลอยอยู่ท่ามกลางจักรวาล และกลายเป็นจุดกำเนิดและรากฐานเรื่องราวของประวัติศาสตร์และตำนานอันแสนยาวนานไร้จุดจบของสงครามนิรันดร์


        ในใจกลางความวินาศของทั้งสอง ณ จุดที่ระเบิดนั้นได้กลายเป็นรอยแผลแห่งการทำลายล้าง สิ่งที่ตกค้างอยู่ของ Anu ในที่แห่งนี้คืออัญมณีขนาดใหญ่ซึ่งเป็นนัยน์ตาของเขา "The Eye of Anu" พลังแห่งอัญมณีนี้คือรากฐานของกาลเวลาและทุกสิ่ง มีพลังมหาศาลมากเกินกว่าจะมีผู้ใดเข้าใจได้ ในภายหลังจึงได้รู้จักกันในนามว่า "Worldstone" และสถานที่ซึ่งอัญมณีหลับไหล รอยแผลแห่งการสรรสร้างจักรวาลนี้จึงถูกเรียกว่า "Pandemonium"


        กระดูกสันหลังอันส่องประกายของ Anu ได้ฉีกออกล่องลอยไปยัง "ปฐมทมิฬ" (Primordial Darkness) ซึ่งเป็นความมืดส่วนแรกสุดที่เกิดขึ้นของจักรวาล มันเคลื่อนที่ไปอย่างเชื่องช้าและเย็นตัวลง กาลเวลาที่ไม่อาจนับได้ ในที่สุดกระดูกสันหลังนั้นก็กลายเป็น "มหาผลึก" (The Crystal Arch) และก่อร่างสร้างเป็น "สวรรค์เบื้องบน" (High Heavens)


        ณ ที่แห่งนั้น Crystal Arch ได้ส่งเสียงอันก้องกังวาล ก่อเกิดวิญญาณซึ่งถูกสร้างจากแสงที่ส่องประกายและเสียงที่ร้องออกมาจากกระดูกสันหลังกลายเป็นเหล่าเทวาที่เป็นลักษณะแห่งความดีงามแต่ละอย่างของ Anu ถึงอย่างนั้น เหล่าเทวาก็ยังห่างไกลจากความสมบูรณ์แบบที่วิญญาณของ Anu เคยมี 


        กายหยาบของมังกรเจ็ดเศียรเหลือเพียงซากที่เกรียมไหม้คละคลุ้งด้วยกลุ่มควันของ Tathamet ผู้ชั่วร้ายตกลงสู่ความมืดมิดเบื้องล่าง ร่างเนื้อที่ถูกเผาไหม้เติบโตกลายเป็นสถานที่อบอวลไปด้วยความชั่วร้ายและหยาบช้าซึ่งรู้จักกันดีในนาม "นรกมอดไหม้" (Burning Hells) 


        เศียรทั้งเจ็ดของ Tathamet ได้กลายเป็นมหาอสูรเจ็ดตน "The Great Evils" อันประกอบไปด้วย สามจ้าวอสูร "Prime Evils" และสี่อสูรชั้นรอง "Lesser Evils" อสูรทั้งเจ็ดได้ขึ้นมาปกครองและสร้างปีศาจที่คลอดออกมาราวกับหนอนแมลงสร้างรังของมัน


        นั่นคือเรื่องราวแห่งการเริ่มต้นก่อนจะเข้าสู่สงครามนิรันดร์อันไร้จุดจบ

ความคิดเห็น

บทความที่ได้รับความนิยม