[Overview] [Diablo III] Season 27 - Light's Calling

        สวัสดีครับ Crucifer เองครับ ก่อนอื่นเลยต้องขอขอบคุณทุกคนที่ยังคงติดตามกันอยู่ถึงแม้จะหายหน้าหายตาไปนานมากก็ตาม ส่วนหนึ่งคือด้วยปัญหาสุขภาพและอีกส่วนคือ Diablo Immortal ตอนนี้กลับมาแล้วตั้งใจทำเพจเต็มที่เพราะยังมีเรื่องต้องเขียนถึงอีกมากในอนาคต เช่น Diablo II: Resurrected ก็อยู่ในรายการเช่นกัน อย่างไรก็ตาม สัญญาว่าจะเขียนให้ดีที่สุดเช่นเดิมครับ

        แต่สำหรับวันนี้เราจะอยู่กับ Diablo III - Season 27 Light's Calling จะมีอะไรน่าสนบ้าง สำหรับใครที่ยังไม่รู้ข้อมูลเยอะนักหรือสนใจก็สามารถอ่านได้เลยครับ

        ด้านทักษะไม่มีอะไรเปลี่ยนเลยเว้นเสียแต่อย่างเดียวคือ

• Strafe
• สามารถใช้งานร่วมกับอาวุธประเภทใดก็ได้ ไม่จำกัดแค่ประเภทธนูอีกต่อไป

        การที่ Strafe เปลี่ยนไปใช้งานง่ายขึ้นแบบนี้ก็มีสาเหตุเกี่ยวเนื่องกับธีมของซีซั่นซึ่งจะอธิบายในหัวข้ออื่นต่อไปภายหลัง

        สำหรับ Diablo III ไม่มีการเปลี่ยนแปลงอะไรที่มีผลมากไปกว่าไอเทมทั้งหลายอีกแล้วและแพทช์นี้ก็เช่นกัน โดยมีปรับความสามารถเซ็ตไอเทมใหม่ถึง 5 เซ็ตพร้อมกับไอเทมที่รองรับความสามารถทักษะที่เกี่ยวพันกับเซ็ตเหล่านี้อีกด้วย 

        เซ็ตไอเทมที่ถูกปรับใหม่ได้แก่ Tal Rasha's Elements และ Delsere's Magnum Opus ของ Wizard, Inna's Mantra ของ Monk, Armor of Akkhan ของ Crusader และ Trag'Oul's Avatar ของ Necromancer

[Tal Rasha's Elements]

• (2) ชิ้น
• เมื่อสร้างความเสียหายแก่ศัตรูด้วยธาตุ Arcane, Cold, Fire หรือ Lightning จะให้ภูมิต้านทานสมบูรณ์ต่อธาตุนั้นและร่าย Meteor ธาตุเดียวกันจากฟากฟ้าใส่ศัตรู
• เอฟเฟคนี้จะทำงานเมื่อมีทักษะ Meteor ใน Action Bar เท่านั้นและไม่สามารถร่าย Meteor แบบเดียวกันซ้ำได้
• (4) ชิ้น
• การโจมตีด้วยธาตุ Arcane, Cold, Fire และ Lightning แต่ละธาตุจะเพิ่มค่าความต้านทานทุกธาตุ 100% เป็นเวลา 8 วินาที
• เมื่อโจมตีด้วย Meteor จะลดระยะเวลาใช้ใหม่ของ Teleport 1 วินาที
• (6) ชิ้น
• เมื่อโจมตี พลังโจมตีจะเพิ่มขึ้น 2,000% เป็นเวลา 8 วินาที
• การโจมตีด้วย Arcane, Cold, Fire และ Lightning จะสะสมพลังโจมตีถึง 4 ขั้น เมื่อใช้ธาตุที่ต่างกันจะยืดระยะเวลาเพิ่มพลังโจมตี 2 วินาที สูงสุดถึง 8 วินาที

        เซ็ตแรกของ Wizard ที่ถูกปรับในแพทช์นี้ โดยยังคงเป็นเซ็ตที่คงความบอบบางอย่างเสมอต้นเสมอปลายเพราะเพิ่มเพียงค่าความต้านทานทุกธาตุเป็นหลักเหมือนเดิม ที่เพิ่มเข้ามาจะเป็นการลดระยะเวลาใช้ใหม่ของ Teleport ซึ่งแน่นอนว่าต้องเล่นให้เชี่ยวชาญถึงจะเอาตัวรอดได้ 

        แต่ที่เปลี่ยนจริง ๆ คือไอเทมเสริมทัพของเซ็ตนี้ที่ทำให้พลังโจมตีของเซ็ตเฉิดฉายขึ้นมาถึง 2 ชิ้น ได้แก่ The Smoldering Core และ Mempo of Twilight 

• The Smoldering Core
• ศัตรูขนาดเล็กจะถูกล่อลวงเข้ามายังจุดตกของ Meteor 
• Meteor เพิ่มพลังโจมตีขึ้น 40-50% ขึ้นกับการโจมตีโดนเป้าหมายเดิมอย่างต่อเนื่อง สะสมสูงสุดถึง 10 ขั้น
• Mempo of Twilight
• รูปแบบการโจมตีของรูนทักษะ Meteor Shower สามารถใช้กับรูนทักษะอื่นได้ทั้งหมด
• Meteor พลังโจมตีเพิ่มขึ้น 300-400%

[Delsere's Magnum Opus] 

• (2) ชิ้น
• เมื่อโจมตีโดนศัตรูด้วย Arcane Orb, Energy Twister, Magic Missile, Shock Pulse, Spectral Blade, Electrocute หรือ Arcane Torrent จะร่าย Slow Time ใส่ศัตรูตนนั้น เอฟเฟคนี้จะไม่เกิดขึ้นอีกหากศัตรูยังอยู่ในอาณาเขตของทักษะ Slow Time
• ระยะเวลาใช้ใหม่ของ Teleport จะถูกรีเซ็ตเมื่อเข้ามาอยู่ใน Slow Time ที่ถูกสร้างขึ้นด้วยเซ็ตหรือคุณร่ายเอง
• (4) ชิ้น
• ลดความเสียหายที่ได้รับ 75% เมื่อ Slow Time ทำงานอยู่
• พันธมิตรที่อยู่ใน Slow Time จะได้รับเอฟเฟคครึ่งหนึ่ง 
• (6) ชิ้น
• เพิ่มพลังโจมตีของทักษะ Arcane Orb, Energy Twister, Magic Missile, Shock Pulse, Spectral Blade, Electrocute หรือ Arcane Torrent 12,500% แก่ศัตรูที่รับเอฟเฟคของ Slow Time หรือหลังออกอาณาเขตทักษะ 5 วินาที

        ที่เด่นสุด ๆ ของเซ็ตนี้คงไม่พ้นการเปลี่ยนแปลงของโบนัสเซ็ต 2 ชิ้นที่ทำให้การเล่นเซ็ตนี้ง่ายขึ้นสุด ๆ ไม่จำเป็นต้องพะวงกับการสร้าง Slow Time ด้วยมือตนเองอีกต่อไป ส่วนไอเทมที่เปลี่ยนแปลงไปเพื่อรองรับความสามารถนี้ก็มี Crown of the Primus

• Crown of the Primus
• Slow Time ได้รับเอฟเฟคของทุกรูนยกเว้น Point of No Return
• สร้าง Slow Time แบบถาวรที่สามารถติดตามคุณไปได้ทุกที่โดยมีคุณเป็นศูนย์กลาง

        นอกจากนี้ Wizard ยังมีไอเทมอีกชิ้นอย่าง Mirror Ball ที่เพิ่มความสามารถด้านพลังโจมตีให้กับ Magic Missile โดยตรงและด้วยความยืดหยุ่นที่เกือบทุกเซ็ตสามารถใช้ทักษะนี้ร่วมได้จึงเป็นจุดสนใจจุดหนึ่งในแพทช์นี้เลยทีเดียว (โดยเฉพาะ Firebird เป็นอย่างยิ่ง) 

• Mirror Ball
• Magic Missile สามารถยิงเพิ่มได้อีก 2 ลูก
• พลังโจมตีของ Magic Missile เพิ่มขึ้น 400-500%

[Inna's Mantra]

• (6) ชิ้น
• ได้รับเอฟเฟคพื้นฐานของ Mystic Ally ทั้งห้าตลอดเวลา
• การโจมตีศัตรูจะสร้าง Mystic Ally ที่ผู้เล่นเลือกใช้งานใน Active Skill Bar ออกมา 15 วินาที สูงสุดถึง 10 ตน
• พลังโจมตีของ Mystic Ally ทุกตนจะเพิ่ม 900% ต่อจำนวน Mystic Ally ที่เรียกออกมา

        ยังไม่หยุดปรับอย่างต่อเนื่องกับ Inna's Mantra ยอดฮิตในช่วงปีที่ผ่านมา ครั้งนี้ปรับใหม่ลดพลังโจมตีเซ็ตโดยตรงเลย! แต่ไปเพิ่มพลังโจมตีจากไอเทมอื่นแทนซึ่งก็ไม่ใช่ชิ้นไหนนอกจาก Bindings of the Lesser Gods เช่นเดิม โดยนำความสามารถเพิ่มพลังโจมตีแก่ Fire Allies ที่ลบออกไปกลับมาใหม่แม้ว่าพลังโจมตีจะไม่ได้มากเท่าเดิม การปรับครั้งนี้ทำให้เซ็ตนี้กลับมาแกมบังคับใช้แต่ Fire Ally อีกครั้งหนึ่งแถมการไต่ระดับความยากจำเป็นต้องมี Bindings of the Lesser Gods เสียแต่เนิ่นด้วย

• Binding of the Lesser Gods
• ศัตรูที่โดนโจมตีด้วย Cyclone Strike จะรับความเสียหายเพิ่มขึ้น 150-200% เป็นเวลา 5 วินาที 
• Split Fire Allies (Active Command ของ Fire Ally) จะได้รับโบนัสนี้ 3 เท่า

[Armor of Akkhan]

• (2) ชิ้น
• Judgement ไม่มีระยะเวลาใช้ใหม่อีกต่อไป
• Judgement ได้รับเอฟเฟคของทุกรูน
• (4) ชิ้น
• การโจมตีจากร่างอวตาร Phalanx จะลดระยะเวลาใช้ใหม่ของ Akarat's Champion 0.5 วินาที
• การโจมตีจากร่างอวตาร Phalanx จะทำให้เกิด Condemn แก่ศัตรูที่รับเอฟเฟคของ Judgement
• (6) ชิ้น
• ระหว่างที่ Akarat's Champion ทำงาน เพิ่มพลังโจมตี 1,500% และลดความเสียหายที่ได้รับ 50%

        เปลี่ยนกันจนลืมของเก่าไปเลยกับ Armor of Akkhan ที่นอกจากวิธีเพิ่มพลังโจมตีแล้วก็เปลี่ยนการใช้งานให้ง่ายขึ้นพอสมควรโดยเฉพาะเรื่องการลดระยะเวลาใช้ใหม่ของ Akarat's Champion ที่ได้ทักษะ Phalanx มาใช้ในส่วนนี้ ส่วนไอเทมที่มาเสริมและโดนปรับจะเป็น Eternal Union ที่ไม่ได้ยืดระยะเวลาอัญเชิญ Phalanx แต่เปลี่ยนเป็นอัญเชิญแบบถาวร เพียงแต่แลกมาด้วยรูนทักษะที่สามารถใช้ได้มีเพียง 2 รูนทักษะเท่านั้นคือ Bowmen และ Bodyguard

• Eternal Union
• เพิ่มระยะเวลาอัญเชิญของทักษะ Phalanx รูนทักษะ Bowmen และ Bodyguard เป็นถาวร

[Trag'Oul's Avatar]

• (2) ชิ้น
• Blood Rush และ Siphon Blood ได้รับเอฟเฟคของทุกรูน
• ทักษะที่ใช้พลังชีวิตจะไม่ต้องใช้ Essence อีกต่อไป
• (4) ชิ้น
• เมื่อพลังชีวิตเต็ม การฟื้นพลังชีวิตจากทักษะจะเพิ่มขีดจำกัดพลังชีวิตสูงสุด สามารถเพิ่มได้สูงสุดถึง 300% เป็นเวลา 45 วินาที
• (6) ชิ้น
• ทักษะที่ใช้พลังชีวิตเพิ่มพลังโจมตี 10,000%
• การฟื้นพลังชีวิตจากทักษะเพิ่มขึ้น 100%

        ปรับใหม่เพื่อเพิ่มพลังโจมตีกับใช้งานได้ง่ายขึ้น เป็นเซ็ตที่ไม่ปรับการทำงานแต่ปรับพลังโจมตีและเน้นไปที่การปรับไอเทมสนับสนุนการเล่นเซ็ตนี้ซะมากกว่าอย่างชัดเจนเพราะปรับกันถึง 3 ชิ้นด้วยกัน

• Iron Rose
• เมื่อโจมตีด้วย Siphon Blood มีโอกาส 100% ที่จะร่าย Blood Nova
• หลังจากเสียพลังชีวิตสะสมถึง 10% ของพลังชีวิตสูงสุด Death Nova จะเพิ่มพลังโจมตี 40% เป็นเวลา 60 วินาที สะสมได้สูงสุดถึง 10 ขั้น
• Bloodtide Blade
• Death Nova เพิ่มพลังโจมตี 300-400% ต่อจำนวนศัตรูทุกตนที่อยู่ในระยะ 25 yards สูงสุดถึง 25 ตน
• Funerary Pick
• Siphon Blood สามารถสูบเลือดศัตรูได้เพิ่มขึ้น 2 เป้าหมาย ศัตรูแต่ละตนจะรับความเสียหายจากคุณเพิ่มขึ้น 250-300% หากมีเพียงเป้าหมายเดียวจะเปลี่ยนเป็นสร้างความเสียหายเพิ่มขึ้นเท่าตัวของพลังโจมตีที่เพิ่มจากไอเทมนี้
• โบนัสของ Siphon Blood - Power Shift เปลี่ยนเป็น 20% ต่อขั้นและมีผลกับทุกทักษะ

        ขวนขวายหนทางแห่งการเปลี่ยนกระแสสงครามระหว่างความสว่างและความมืดที่ไม่ขาดสาย เหล่าเทวาแห่งสวรรค์เบื้องบนได้ฝังเครื่องหมายแห่งความความชอบธรรมของพวกเขาบน Sanctuary เหล่าเนฟาเลมเจ้าเล่ห์ที่แสวงหาสิ่งที่เป็นประโยชน์ในการต่อสู้จะได้รับการทดสอบจากเหล่าเทวา ตกผลึกสัญลักษณ์แห่งศีลธรรมเป็นความบริสุทธิ์ ความบริบูรณ์พร้อมเกินกว่าโลกใบนี้ พลังจากฟากฟ้าเบื้องบนที่ถูกเสริมเติมแต่งภายในด้วยพลังศักดิ์สิทธิ์ - คำตอบนั้นค้นหาได้ในสนามรบ ออกไปค้นหามัน เนฟาเลม!

        Season 27 ขอแนะนำของเล่นใหม่แก่ทุกท่าน (ซึ่งแน่นอนว่าเป็นไอเทมเฉพาะซีซั่นนี้) นั่นคือ Angelic Crucibles และการอัพเกรดเป็น Sanctified Items ตามอารัมภบทที่กล่าวข้างต้นเหล่าเทวาได้มอบบางสิ่งไว้กับ Sanctuary และเหล่าเนฟาเลมทั้งหลายสามารถใช้มันในการเพิ่มความสามารถการต่อสู้

        ความสามารถพิเศษของ Angelic Crucibles จากซีซั่นนี้คือทำให้ไอเทมธรรมดาสามารถกลายเป็น Sanctified Items ซึ่งนอกจากเปลี่ยนค่าความสามารถอุปกรณ์ให้เทียบเท่า Primal Ancient ได้แล้ว ยังเพิ่มความสามารถในการใช้งานแบบสุ่มให้ได้ด้วย

        ซีซั่นนี้จึงเป็นเหมือนอีกการทดลองหาหนทางลูกเล่นไอเทม เฉกเช่นเดียวกับ Season 24 - Ethereal Memory และ Season 25 - The Lords of Hell แต่เน้นไปทางเพิ่มรูปแบบการเล่นมากกว่าจะเพิ่มพลังกันตรง ๆ เหมือนที่ผ่านมา (และนั่นอาจเป็นสาเหตุที่ซีซั่นนี้ไอเทมปรับเปลี่ยนไปพอสมควร) 

        จากนี้ไปคือคุณสมบัติพื้นฐานของ Angelic Crucibles และ Sanctified Items ใน Season 27

• การเก็บ Angelic Crucibles และชำระล้างเป็น Sanctified Items สามารถทำได้เฉพาะตัวละครของ Season 27 - Light's Calling และเมื่อจบซีซั่น ไม่สามารถเคลื่อนย้ายไอเทมเหล่านี้ไปยังตัวละคร Non-Seasonal (ไอเทมจะโดนลบไปนั่นเอง) 
• Angelic Crucibles ตกจากแห่งหนใดก็ได้และเริ่มตกที่เลเวล 70
• สามารถครอบครอง Sanctified Items กี่ชิ้นก็ได้ แต่ใช้งานได้เพียงทีละชิ้นเท่านั้น
• Sanctified Items สามารถชำระล้างใหม่ได้หากไม่ได้ความสามารถที่ต้องการ
• ค่าความสามารถของอุปกรณ์จะสุ่มเปลี่ยนใหม่ โดยค่าเลขที่ได้จะเทียบเท่า Primal Ancient
• มีเพียงอุปกรณ์เลเวล 70 เท่านั้นที่สามารถชำระล้างได้
• อุปกรณ์สร้างเอง (Crafted Items) ไม่สามารถชำระล้างได้
• ผู้ติดตาม (Followers) ไม่สามารถสวมใส่ Sanctified Items

        นั่นคือเงื่อนไขทั้งหมดจำเป็นต้องทำความเข้าใจเกี่ยวกับ Angelic Crucibles และ Sanctified Items จากนี้ไปจะเป็นรูปแบบพลังจากการชำระล้างหรือ Sanctified Powers ของแต่ละคลาสด้วยกัน

        อย่างที่กล่าวไปข้างต้น ว่าเป็นความสามารถที่ได้แบบสุ่ม เพราะฉะนั้นไปดูกันว่า แต่ละคลาสมีความสามารถแบบไหนกันบ้าง

• Barbarian

        เรียกว่าชัดเจนกับความสามารถแต่ละอย่างใช้เล่นกับสายไหน จะมี Tempest Rhythm ที่ครอบจักรวาลเพราะเกือบทุกสายต้องมี Wrath of the Berserker ไว้ใช้งานอยู่แล้ว สาย Whirlwind ก็เล่นได้สบายขึ้น (แต่ไม่ใช่เมต้า) และสุดท้าย Hammer of the Ancients ขึ้นมาเมต้าได้เพราะ Sanctified Power นี่แหละ

• Witch Doctor

        แม้ดูความสามารถจะแตกต่างกันไปตามสายที่เล่น มีการใส่บางทักษะที่อาจไม่เคยคาดคิดกันมาก่อนอย่าง Sacrifice หรือ Horrify แต่ที่โดดเด่นที่สุดคือความสามารถ Locust Swarm + Piranhas ที่นำไปเล่นได้ทั้ง Zunimassa's Haunt หรือ Mundunugu's Regalia แต่ก็รู้กันอยู่ว่าเซ็ตไหนเล่นง่ายกว่า

• Wizard

        Storm Armor ดูไม่น่าคาดหวังเท่าไหร่เพราะใช้ได้ทีละเป้าหมายจึงมีความเป็นส่วนเสริมสำหรับเมต้าเดิมมากกว่า ส่วน Magic Missile น่าเสียดายมากเพราะใน PTR สัปดาห์แรกใช้ร่วมกับ Firebird คือเมต้าดี ๆ นี่เองแต่เหมือนจะสุดทางจนเกินไปเลยโดนปรับลดแต่ถึงอย่างนั้นก็ถือว่าใช้ได้ดีและใช้งานง่ายระดับหนึ่งเลย สามารถใช้ช่วงตั้งตัวได้ดีมาก แต่ที่สุดนี่หนีไม่พ้น Arcane Orb ที่พอดีเซ็ต Delsere's Magnum Opus โดนปรับให้ใช้งานง่ายเช่นกัน คือรู้แหละว่าปรับมาเพื่อสิ่งนี้ (แต่ก็ไม่ใช่เมต้าอยู่ดี)

• Monk

        ไม่บอกก็ต้องเชื่อว่าเมต้าที่เคยสาปสูญจะฟื้นจากหลุมก็วันนี้ เพราะด้วย Sanctified Power สายระฆัง Wave of Light - Explosive Light เลยได้กลับมาแจ้งเกิดอีกครั้งแถมเป็นเมต้าที่ดีที่สุดอีกด้วย พอใส่คู่กับ Monkey King's Garb คือไปสุดทางจริง ๆ ที่เหลือก็พอมีน่าสนใจอยู่ทั้ง Way of the Hundred Fists ขั้นที่ 2 และ Seven-Sided Strike ก็มีดีอยู่ แต่ไม่ใช่เมต้า 

• Demon Hunter

        อาจจะไม่ได้แปลกใหม่เหมือนคนอื่น แต่ก็ไม่ได้แปลว่าจะไม่มี ด้วยความที่ทักษะ Strafe ปลดล็อคเงื่อนไขการใช้อาวุธประเภทธนูเท่านั้นออกไป จึงก่อกำเนิด The Shadow's Mantle Strafe ที่ใช้ทักษะ Strafe แล้วปามีดไปด้วยได้โดยมีการพิสูจน์แล้วว่าการปามีดโดยพึ่ง Sanctified Power ของ Strafe ให้รอบการปาที่ดีกว่ามานั่งปาเอง และยังมีเมต้าค้างฟ้าอย่าง Embodiment of the Marauder กับ Sanctified Power ของ Sentry ที่เปลี่ยน Cluster Arrow ให้ไม่ยิงกำหนดจุดใดจุดหนึ่งแต่เป็นลำแสงทะลุนั่นหมายความว่าสามารถโดนเป้าหมายตลอดระยะยิง ทำให้จัดการกับศัตรูจำนวนมากได้ดีขึ้น ส่วน Vengeance นั้นไม่ได้ถูกคาดหวังสักเท่าไหร่

• Crusader

        ถึงจะไม่ได้ระดับขึ้นเมต้าก็เถอะ แต่อย่างน้อย 2 ใน 3 ก็ช่วยได้ในระดับหนึ่งทั้ง Blessed Hammer ที่ใช้ได้ดีกับ Seeker of the Light และ Fist of the Heavens ที่ใช้ร่วมกับ Aegis of Valor ส่วน Falling Sword ที่เรียก Archangel 2 ตนมานั้นไม่น่าคาดหวังเท่าไหร่

• Necromancer

        ได้ขึ้นเมต้าเยอะที่สุดในซีซั่นนี้เพราะมีทั้งไอเทมที่ปรับใหม่กับ Sanctified Powers ที่รองรับเยอะ ทั้ง ความสามารถเรียกศพของโกเลมที่เอาไปเล่นกับ Legacy of Dreams และ Legendary Powers ที่อยู่ในข่ายทั้งหลาย หรือ Army of the Dead - Unconventional Warfare ที่ใช้ร่วมกับ Bones of Rathma แบบสบาย ๆ ส่วนเมต้าอย่าง Blood Nova ก็สามารถเรียกวิญญาณมาเสริมการโจมตีเพิ่มเติมได้

        ทั้งหมดนั่นคือข้อมูลเกี่ยวกับ Angelic Crucibles และ Sanctified Items ธีมของ Season 27 - Light's Calling การเพิ่มลูกเล่นใหม่ ๆ ลงไปกับไอเทมจึงมีอะไรแปลก ๆ มาให้เห็นกันบ้าง อย่างไรก็ตามทุกคนก็ต้องลุ้นกันต่อไปว่าบรรดาลูกเล่นแปลก ๆ เหล่านี้จะยังคงสานต่อเป็นคอนเทนต์อื่นได้อีกหรือไม่ เฉกเช่นที่เคยยกให้ Echoing Nightmare กลายเป็นคอนเทนต์ถาวรไปแล้ว แต่บอกตรง ๆ ว่าน่าจะยากหน่อยนะ

        ของรางวัลประจำ Season 27 เป็นปกติเช่นเคยที่จะมี Haedrig's Gift รวมไปถึง Cosmetic Rewards ของ Season 15 หลังจากจบ 4 บทแรกของ Season Journey ใครที่ยังไม่มีก็หาไว้ เดี๋ยวจะหาว่าไม่เตือน (เหตุเพราะ Diablo IV ใกล้เข้ามาแล้ว คงยากหรืออีกยาวนานกว่าจะวนมาอีกรอบ) 

        หลังจบ 4 บทแรกของ Season Journey คุณจะได้รับเซ็ตไอเทมประจำคลาสดังต่อไปนี้

• Raiment of a Thousand Storms (Monk)
• Unhallowed Essence (Demon Hunter)
• Wrath of the Wastes (Barbarian)
• Tal Rasha's Elements (Wizard) 
• Roland's Legacy (Crusader)
• Helltooth Harness (Witch Doctor) 
• Bones of Rathma (Necromancer)

    สำหรับของรางวัล Cosmetics ดั้งเดิมจะมีชุดจำแลงเซ็ต Conqueror ซึ่งแจก 2 ส่วนต่อซีซั่นเหมือนเดิมกับกรอบภาพประจำตัวและสัตว์เลี้ยง (?) จากซีซั่นก่อน ครั้งนี้เป็นรางวัลเก่าจาก Season 15

• รูปลักษณ์จำแลง Conqueror's Cuirass (ลำตัว) และ Conqueror's Gauntlets (มือ) 
• Eternal Conflict Portrait Frame Set  หลังจากจบ Season Journey 4 บทแรก เป็นต้นไป
• สัตว์เลี้ยง Belphegor หลังจากจบ Season Journey 4 บทแรก

    ส่วนรางวัลขั้นสูงสุดจากการจบระดับ Guardian ของ Season Journey จะมีทั้งหมด 2 อย่างนั่นคือ 

• Laurels of Knowledge Portrait Frame กรอบประจำตัวที่มาในธีมของ Horadrim เหล่าจอมเวทย์ที่ก่อตั้งขึ้นมาเพื่อต่อต้านอสูรแห่ง Sanctuary นั่นเอง เป็นกรอบที่แนะนำให้เก็บมากหากมีธงชาย Loremaster คู่กัน เพราะถ้าดูให้ดีทั้งสองชิ้นนี่ราวกับเป็นเซ็ตเดียวกันมาเลย
• Corvus Cadaverous Pet สัตว์เลี้ยงใหม่ที่แอบเห็นหลายคนกรีดร้องอยากได้น้องหมาซอมบี้ที่แทะแขน (ของ Fallen แหละมั้ง? ก็ผิวสีแดงนี่) ถือมีดยาวขบเคี้ยวเล่น

        Season 27 เหมือนเก็บกดที่ปล่อยง่ายซีซั่นที่แล้ว คราวนี้มากันแบบลากเลือดเลย มีแต่ที่โหด ๆ สำหรับมือใหม่ทั้งนั้น ไม่ว่าจะ Sprinter & Speed Racer ที่มีผ่านจบทัน 1 ชั่วโมงแบบนับหัวได้ Avarice & Avaritia ถึงมีทางเลือกให้ทำถึง 2 ทางแต่ก็เหนื่อยหน่อย Boss Mode & Worlds Apart ที่จะง่ายก็ต่อเมื่อทำเป็นประจำหรือเป็นสายวิ่งของ Sprinter & Speed Racer อยู่แล้ว Masters of the Universe & Masters of Sets ที่ความง่ายขึ้นอยู่กับคลาสที่เล่น ที่ง่ายแท้จริงเพียงหนึ่งเดียวก็มีแต่ The Thrill & Super Human ที่มีแค่ Skill Multiplier Items กับ Legacy of Dreams ก็สบายแล้ว

• Sprinter (Seasonal) & Speed Racer (Hardcore Seasonal) 
• จบ Campaign ทั้งหมดของ Diablo III (รวมถึง Reaper of Souls) ณ เลเวลสูงสุดภายในเวลา 1 ชั่วโมง
• Avarice (Seasonal) & Avaritia (Hardcore Seasonal) 
• เก็บทองต่อเนื่องจนถึง 50,000,000 ณ ที่ใดก็ได้ที่ไม่ใช่ The Vault และ The Inner Sanctum
• Boss Mode (Seasonal) & Worlds Apart (Hardcore Seasonal) 
• กำจัดบอสที่กำหนดขณะเลเวลสูงสุด (เลเวลพื้นฐาน 70) บนระดับความยาก Torment X หรือสูงกว่า ในเวลา 20 นาทีนับตั้งแต่เริ่มเกมรอบนั้น
• The Thrill (Seasonal) & Super Human (Hardcore Seasonal) 
• พิชิต Greater Rift ระดับ 45 เดี่ยว โดยไม่ใส่เซ็ตไอเทมใด ๆ ทั้งสิ้น
• Masters of the Universe (Seasonal) & Masters of Sets (Hardcore Seasonal)
• พิชิต Set Dungeons ระดับเชี่ยวชาญ 8 แห่ง

        Season 27 - Light's Calling ถือว่าเป็นการทดลองเกี่ยวกับไอเทมอีกครั้ง เป็นสัญญาณว่าหลังจากนี้จะเน้นไปที่ลูกเล่นไอเทมเป็นธีมซีซั่นซะเป็นส่วนใหญ่อย่างแน่นอน (ก็ถ้าไม่มี Season 26 มาคั่นกลางจะกลายเป็นธีมเกี่ยวกับไอเทมลากยาว 3 ซีซั่นเลย) รวมไปถึงการปรับและเปลี่ยนรูปแบบการใช้งานเซ็ตซีซั่นนี้ถือว่าเยอะมากเลยทีเดียว (แน่นอนว่ารวมไปถึงการลดความสามารถจนเสียทรงด้วย) แต่สิ่งที่เปลี่ยนไปคือความพยายามเปลี่ยนไอเทมธีมจากเพิ่มพลังกันตรง ๆ ให้เป็นมีรูปแบบความสามารถใช้งานต่างออกไป ต้องมารอดูกันว่าจะออกมาดีไหม 

        แต่เรื่องหนึ่งที่ค่อนข้างแน่ชัดแล้วคือตอนนี้น่าจะเข้าช่วง Crunch ของ Diablo IV เพราะฉะนั้น Diablo III Season 27 - Light's Calling นี้อาจเป็นซีซั่นที่ยาวนานสักหน่อย (ไม่น่าจะหน่อยแหละ เพราะนี่ก็ออกบทความเลทจนควรจะเป็นท้ายซีซั่นแล้ว แต่ยังไม่เห็นแม้แต่เงา PTR เลยนะ)