[Overview] [Diablo III] Season 33 - Shades of the Nephalem
Greetings, Nephalem! Crucifer เองครับ ขอบคุณทุกคนที่เข้ามาอ่านและกดชอบและแชร์กันอย่างสม่ำเสมอ ถือเป็นกำลังใจสำคัญในการเขียนต่อไปครับ
สำหรับ Diablo III Season 33 ถือเป็นการนำธีม Shades of the Nephalem จาก Season 22 กลับมาใหม่อีกครั้งหลังจากผ่านไป 11 ซีซั่น แน่นอนว่าเป็นซีซั่นที่เอาใจ Rifters เหมือนตอนที่ธีมนี้มาครั้งแรกแน่นอน ส่วนใครไม่คุ้นเคยหรือเพิ่งเผลอมาเล่น ยินดีด้วย นี่คือหนึ่งในธีมที่ดัน Greater Rifts ได้สนุกที่สุด
ใครใคร่อยากรู้ว่าเป็นอย่างไร เรามาดูรายละเอียดกัน
สำหรับใครที่เคยผ่าน Season 22 ตอนที่ธีม Shades of the Nephalem มาครั้งแรกครั้งนี้น่าจะดีใจกันอีกรอบ เพราะ Shadow Clone ได้กลับมาแล้ว แน่นอนว่ายังประทับใจกับความโหดของร่างเงาเหล่านี้ที่ทันทีที่ออกมาก็แทบจะสลายศัตรูทุกตนที่ขวางหน้าได้เลย แค่เพียงแต่ Shrine หรือ Pylon เรื่องลำบากในเวลาลง Greater Rifts ก็จะสบายขึ้นมาทันที สำหรับใครที่ยังไม่เคยผ่าน Season 22 มาดูรายละเอียดของ Shadow Clone กันว่ามีลักษณะอย่างไรบ้าง
จากนี้ไปจะเป็นคุณสมบัติของ Shadow Clone ในธีม Shades of the Nephalem
- เมื่อใช้งาน Shrine หรือ Pylon จะกำเนิด Shadow Clone 1 ตน
- Shadow Clone จะเกิดตามจำนวนและคลาสของผู้เล่นที่อยู่ในพื้นที่เดียวกัน
- Shadow Clone จะสุ่ม Skills Set เซ็ตใดเซ็ตหนึ่ง แต่ละคลาสจะมี 3 เซ็ตด้วยกัน
- Shadow Clone จะอยู่กับผู้เล่นเป็นระยะเวลา 1 นาที หรือจนกว่าผู้เล่นจะตายไปก่อน
- Shadow Clone is absolutely "Overpower"
อย่างที่เขียนไว้ในข้อสุดท้าย Shadow Clone ถือว่ามีพลังในระดับ Overpower ของจริง จึงมักเก็บ Pylon ไว้ในการช่วยกำจัด Champions, Elites หรือแม้กระทั่ง Rift Guardian (ปกติผู้เล่นระดับสูงจะเก็บ Pylon ไว้ใช้ตอนใกล้จะเรียก Rift Guardian อยู่แล้ว) จึงถือว่าเป็นธีมที่เอาใจผู้เล่นสาย Greater Rifts ที่เป็นผู้เล่นส่วนใหญ่ของภาคนี้ เพราะฉะนั้นใครอยากลง Greater Rifts แบบเต็มที่ นี่คือเวลาของคุณ
อีกส่วนหนึ่งที่ถูกเพิ่มในซีซั่นนี้คือ Universal Power ที่ใช้หลักการเดียวกับซีซั่นธีม The Forbidden Archives คือให้อิสระในการเลือกพลังที่ใช้ แต่แทนที่จะอิสระทุกช่องกลายมาเป็นเพิ่มให้ 1 ช่องแทนที่จะให้อิสระทั้งหมด อย่างไรก็ตาม 1 ช่องนี้ก็มีผลกับบิวด์อย่างมหาศาลเพราะมันคือเพิ่มพลังอีก 1 อย่าง
ขึ้นซีซั่นใหม่ยังไงก็ขาดของรางวัลไม่ได้ ทั้ง Haedrig's Gifts และ Cosmetic Rewards มาดูกันว่ารอบนี้จะนำของรางวัลอะไรมาให้สะสมใหม่อีกรอบ
หลังจบ 4 บทแรกของ Season Journey คุณจะได้รับเซ็ตไอเทมประจำคลาสดังต่อไปนี้
- Monkey King's Garb (Monk)
- The Shadow's Mantle (Demon Hunter)
- Might of the Earth (Barbarian)
- Firebird's Finery (Wizard)
- Thorns of the Invoker (Crusader)
- Raiment of the Jade Harvester (Witch Doctor)
- Grace of Inarius (Necromancer)
ถ้าให้เชียร์ว่าเซ็ตไหนเล่นง่ายสุดก็เป็น Firebird's Finery แน่นอนเพราะทั้งพลังโจมตีและลดความเสียหายถือว่ามีครบและเงื่อนไขไม่ยาก รองลงมาคือ The Shadow's Mantle ที่ได้ลดความเสียหายจากทักษะ Shadow Power แบบถาวรพร้อมเอฟเฟคทุกรูน ขณะที่เซ็ตอื่นไม่เชิงว่าแย่แต่สำหรับเซ็ตเปิดซีซั่นแล้วเงื่อนไขจุกจิกเยอะนิดหนึ่ง
Cosmetics ดั้งเดิมมีชุดจำแลงเซ็ต Conqueror ซึ่งแน่นอนว่าแจก 2 ส่วนต่อซีซั่นกับกรอบภาพประจำตัวและสัตว์เลี้ยงจากซีซั่นเก่า ครั้งนี้เป็นรางวัลเก่าจาก Season 9
- รูปลักษณ์จำแลง Conqueror's Cuirass (ลำตัว) และ Conqueror's Gauntlets (มือ)
- Pandemonium Portrait Frame Set หลังจากจบ Season Journey 4 บทแรก เป็นต้นไป
- สัตว์เลี้ยง Rocky หลังจากจบ Season Journey 4 บทแรก
ส่วนรางวัลขั้นสูงสุดจากการจบระดับ Guardian ของ Season Journey เป็นรางวัลเก่าจาก Season 21 กลับมาใหม่ มีทั้งหมด 2 อย่างนั่นคือ
- Industrial Portrait Frame กรอบประจำตัวที่มาในธีมของสตรีมพังก์
- Stupendous Contraption Pet สัตว์เลี้ยงที่มีลักษณะเหมือนสัตว์ทดลองสตรีมพังก์?
สำหรับรางวัล End of Journey จะเป็นรางวัลจาก Season 21 เซ็ตนี้เหมาะเข้าชุดกับ Gears of Dreadlands ใครยังไม่มีก็เก็บแล้วนำไปแต่งกับเซ็ต Gears of Dreadlands ดูแล้วจะรู้ว่าเข้ากัน
Season 33 ถือว่าภารกิจพิชิตชัยง่ายมาก (ถ้าไม่นับการมีอยู่ของ Sprinter & Speed Racer) ใด ๆ ก็ตามทุกภารกิจสามารถทำได้ด้วยตัวละครเดียวทั้งหมด ไม่ว่าจะ Avarice & Avaritia, Speed Demon & Need for Speed, The Thrill & Super Human และ Curses! & Stars Align แต่ถ้าจะเก็บหมดก็ระวัง Sprinter & Speed Racer ให้ดีเพราะมันยาก เว้นแต่คุณจะใช้ Monk กับทักษะ Dashing Strike
- Sprinter (Seasonal) & Speed Racer (Hardcore Seasonal)
- จบ Campaign ทั้งหมดของ Diablo III (รวมถึง Reaper of Souls) ณ เลเวลสูงสุดภายใน 1 ชั่วโมง
- Avarice (Seasonal) & Avaritia (Hardcore Seasonal)
- เก็บทองต่อเนื่องให้ถึง 50,000,000 ณ ที่ใดก็ได้ที่ไม่ใช่ The Vault และ The Inner Sanctum
- Speed Demon (Seasonal) & Need For Speed (Hardcore Seasonal)
- พิชิต Nephalem Rift ณ เลเวลสูงสุดบนระดับความยาก Torment X หรือสูงกว่า ในเวลา 2 นาที (นับถึงปิดริฟท์)
- The Thrill (Seasonal) & Super Human (Hardcore Seasonal)
- พิชิต Greater Rift ระดับ 45 เดี่ยว โดยไม่ใส่เซ็ตไอเทมใด ๆ ทั้งสิ้น
- Curses! (Seasonal) & Stars Align (Hardcore Seasonal)
- กำจัดศัตรู 350 ตนหรือมากกว่าในอีเวนท์ Cursed Chest อีเวนท์เดียว ขณะเลเวลสูงสุด (เลเวลพื้นฐาน 70) บนระดับความยาก Torment X หรือสูงกว่า
สำหรับซีซั่นนี้จะเป็นการกลับมาของเหล่า Rifters และดูท่าทางเป็นซีซั่นที่เน้นจบไวเนื่องด้วยเพิ่งเปิดให้เล่น Diablo IV: Vessel of Hatred อย่างเป็นทางการด้วย ใครอยากคลายเครียดและเล่นอะไรที่ง่ายกว่า The Pit ใน Diablo IV ก็มาลง Greater Rifts ในซีซั่นนี้ได้ ในส่วนรางวัลถือว่า End of Journey น่าสนใจสำหรับผู้เล่นที่ยังไม่เคยเก็บก็ถือว่าดีกว่าซีซั่นที่แล้ว
สำหรับกำหนดการมาของ Season 33 - Shades of the Nephalem เป็นไปตามนี้
- The Americas: 26 ตุลาคม 2024 เวลา 07:00 น.
- Europe: 25 ตุลาคม 2024 เวลา 22:00 น.
- Asia: 25 ตุลาคม 2024 เวลา 15:00 น.
สำหรับเครื่องคอนโซลในประเทศไทยจะถูกจัดและยึดเวลาตาม The Americas
















ความคิดเห็น
แสดงความคิดเห็น