[Report] [Diablo in BlizzCon X]


     สวัสดีครับ ไม่ได้เจอกันมานานมากจริงๆ ทิ้งห่างจากคราวที่แล้วไปร่วม 2 เดือนเลย ยินดีที่ได้มาพบกันอีกครั้งครับ สำหรับตอนนี้กำลังพยายามปรับเปลี่ยนหลายๆอย่างทั้งในส่วน Blog และ Facebook Page เช่นกัน ซึ่งอนาคตจะเป็นอย่างไรคงได้เห็นกันเร็วๆนี้
     แต่ตอนนี้ขอมารายงานส่วนของ Diablo ในงาน BlizzCon X (BlizzCon 2016) เหมือนทุกปีก่อนครับ เนื่องจากว่าช้าไปเกือบ 3 สัปดาห์แล้ว ครั้งนี้จะมาเน้นกันที่สรุปแทนที่จะแปลออกมาเหมือนปีก่อนๆ เพราะดูแล้วน่าจะง่ายต่อการจัดลำดับมากกว่าการแปลตรงมาทีละส่วน และสามารถจัดระเบียบดูได้ง่ายว่ามีอะไรน่าสนใจบ้าง

     เอาละ ใครพร้อมก็มาดูกันเลย!

     สิ่งที่พูดหลักๆของ Diablo ใน BlizzCon X ได้แก่

  • Adventure Mode
  • The Darkening of Tristram
  • Armory
  • Rise of the Necromancer
  • Seasons on Console
  • Quality of Life
  • Greater Rifts
  • Challenge Rifts
     หลังจากหัวข้อหลักแล้วก็จะมีเก็บตกสิ่งที่น่าสนใจมาเผื่อด้วยครับ มาดูทีละหัวข้อกันเถอะ



     เรื่องแรก การจัดอีเวนท์ครบรอบ Diablo ลงใน Diablo III ปีนี้ครบรอบ 20 ปี ของซีรี่ย์นี้ ด้วยความเคารพต่อซีรี่ย์ ทีมงานจึงนำบรรยากาศของภาคแรกมาให้ได้สัมผัสอีกครั้งด้วยการปรับองค์ประกอบต่างๆให้ได้กลิ่นของ Diablo I ไม่ว่าจะเป็น


รายละเอียดของ The Darkening of Tristram
  • อีเวนท์นี้จะเกิดขึ้นทุกเดือนมกราคมนับตั้งแต่ปี 2017 เป็นต้นไป
  • GLORIOUS RetroVision™ ฟีเจอร์ที่ทำให้ภาพถูกปรับองศาใหม่และเปลี่ยนเป็น Pixel
  • UI ที่ถูกดัดแปลงในธีม Diablo I
  • Soundtracks & Sound Effects ที่ยกจากของเดิมมาทั้งหมด
  • Layouts & Monsters ที่นำของ Diablo III มาดัดแปลงให้ใกล้เคียงกับ Diablo I
  • การควบคุมแบบ 8 ทิศทาง พร้อมกับอนิเมชั่นการเดินตลอดทั้งอีเวนท์

 GLORIOUS RetroVision™ ที่จะมา


UI ที่ดัดแปลงมาจาก Diablo I

     แล้วจะเล่นได้ยังไง? ง่ายๆ ก็แค่ไปที่ The Old Ruins แล้วเข้า Portal ที่มีชื่อว่า The Darkening of Tristram เพียงเท่านี้อีเวนท์ก็จะเริ่มขึ้นมาทันที


ตรงไปที่ The Old Ruins หรือจะพูดให้ถูกก็คือ Old Tristram


เพียงเข้าไปใน Portal บริเวณน้ำพุก็ได้รับการต้อนรับจาก GLORIOUS RetroVision™ ทันที

     และที่ขาดไม่ได้เลยคือ ช่วงอีเวนท์นี้มีรางวัลกับเขาด้วย โดยจะมีทั้ง Portrait Frames, Banner & Sigil, Transmogs ตลอดจน Pets ที่อิงจาก Diablo I เช่น Butcher จากเวอร์ชั่น Diablo I ก็มีเช่นกัน


มาทั้ง Portrait Frames, Banner & Sigil และ Pets


Butcher Pet ที่อิงมาจาก Diablo I


Legendary Gem ที่มาพร้อมกับ Transmogs จากฉากจบในตำนาน


นอกจากนี้ Transmogs ในตำนาน 2 ชิ้นนี้ก็มาเช่นกัน


ป.ล. และแล้วเราก็สามารถรวบรวมขาของ Wirt ได้ครบทั้ง 2 ข้างแล้ว หึๆๆ



และการปรากฎตัวของ Butcher V. Diablo I ที่หลายคนรอคอย


สำหรับ The Darkening of Tristram จะมาในแพทช์ 2.4.3
ซึ่ง ณ ตอนที่เขียนนี้ก็ได้ลง PTR เรียบร้อยแล้ว
(ส่วนรีวิวของ 2.4.3 อาจจะเริ่มมาในสัปดาห์หน้าครับ)



บันทึกไว้เพื่อความสะดวกสบาย

     สำหรับส่วนต่อไป Armory นั้นเป็นคอนเทนต์เพิ่มความสะดวกสบายให้แก่ผู้เล่น มันคือฟีเจอร์ที่ใช้ในการดูและบันทึก "Loadouts" ของผู้เล่นตามแต่จะจัดสรร รวมทั้งสามารถเรียกใช้งาน Loadouts ต่างๆที่ผู้เล่นจัดไว้ได้อย่างง่ายดายในการคลิกเพียงครั้งเดียว

     Loadouts ในที่นี้ครอบคลุมอะไรบ้าง
  • Skills ทั้งหลายทั้งปวง ไม่ว่าจะเป็น Active หรือ Passive
  • Items ทุกอย่างที่จัดไว้รวมไปถึง Gems และ Legendary Gems ด้วย
  • Kanai's Cube Powers ก็ถูกบันทึกและเรียกใช้งานได้เช่นกัน
     สั้นๆก็คือทุกอย่างยกเว้น Paragon Points สามารถเรียกใช้งานได้ในเพียงคลิกเดียว
ถามว่าทำไมไม่รวม Paragon Points ไปด้วย สั้นๆเลยคือความยุ่งยากจากการเลเวลอัพแล้วจะอัพ Paragon Points ที่หากแก้ทีนึงก็อาจต้องบันทึก Loadouts ใหม่

     เมื่อผู้เล่นได้จัดการไอเทมที่ใส่เพื่อจะเข้า Loadouts เรียบร้อย ก็สามารถบันทึกพร้อมตั้งชื่อได้
จะเรียกใช้งานทั้งหมดก็กด Equip แค่ครั้งเดียวพอ สามารถบันทึกได้สูงสุด 5 ชุด


ตั้งชื่อและจัดการ Loadouts ของตนเองได้สูงสุดถึง 5 แบบ
มาทั้งบน PC และ Console


Armory จะเปลี่ยนทั้ง Gems และ Legendary Gems ให้โดยอัตโนมัติ

     คอนเทนต์นี้จะลงทั้ง PC และ Console ยังไม่มีการแจ้งชัดเจนว่าจะมาเมื่อไหร่แต่ที่แน่ๆคือภายในปี 2017 ที่จะถึงนี่แหละ


     โอเค เข้าสู่ประเด็นหลักของปีนี้กัน หลายคนคงได้เห็นภาพหลุดจนกระทั่งตอนนี้คงรู้ข่าวกันหมดแล้ว ว่าทีมพัฒนากำลังจะนำ Necromancer คลาสที่ถูกถามถึงมากที่สุด กลับมาสู่ซีรี่ย์นี้อีกครั้ง


     คำถามคือ Necromancer เป็นใคร? ทุกครั้งที่ทีมพัฒนาพยายามสร้างตัวละครจะตั้งคำถามขึ้นมาเพื่อระบุให้ชัดเจนถึงจุดมุ่งหมายของตัวละคร จึงมีการระดมสมองแล้วคิดธีมตัวละครต่างๆขึ้นมา


Necromancer ในนิยามต่างๆ
(ซ้าย) The King of the Dead (กลาง) The Crypt Keeper (ขวา) The Hunter


สุดท้ายจึงได้ออกมาเป็นนิยาม
"The Commander of the Dead"
ผู้บัญชาเหล่ามรณชน
ซึ่งนิยามจะเกี่ยวพันไปถึงการออกแบบด้วย


สืบเนื่องจากที่เดิม Diablo III เป็นภาคต่อของซีรี่ย์
จึงออกแบบให้ Necromancer มีความใกล้เคียงกับดีไซน์เดิมจากภาค 2
[หมายเหตุ แต่อาวุธประจำคลาสจะเปลี่ยนไปเป็น Scythe และจะมี Off-hand ใหม่มาด้วย]


Necromancer's Armor Concepts


ธีมของ Necromancer จะออกไปทางมืดมนทั้งสัตว์เลี้ยงและทักษะที่ใช้
ต้องมีภาพลักษณ์ของการบัญชาการคนตาย
ธีมทักษะใช้เลือด กระดูก และการปลุกชีพเป็นหลัก รวมไปถึงมีสายคำสาปชัดเจนด้วย


ในด้านภาพลักษณ์ เมื่อเทียบ Witch Doctor กับ Necromancer แล้ว
Necromancer จะเป็นอะไรที่โดยรวมมืดมนกว่ามาก

และจะมีบางสิ่งที่ต้องแบ่งแยกให้ชัดระหว่าง Witch Doctor กับ Necromancer
อย่างเช่น ทักษะ


ด้วยนิยาม The Commander of the Dead
Necromancer จะไม่เพียงแต่มีความสามารถแบบ Passive ที่เรียกสัตว์เลี้ยงออกมาปกป้องแล้วให้ AI ทำงานอย่างเดียวแบบ Witch Doctor
แต่ยังสามารถสั่งโจมตีได้อย่างเฉพาะเจาะจงพร้อมกับบัฟเพิ่มความสามารถสัตว์เลี้ยงได้ด้วย



ในด้าน Resources พื้นฐานของ Witch Doctor นั้นจะมีเพียง Mana
แต่ Necromancer จะมี Essence ที่เป็นพลังพื้นฐานทั่วไป 
[ข่าวมาว่า Essence จะเป็น Resource ที่ไม่ฟื้นอัตโนมัติ แต่จะฟื้นได้จากการใช้ทักษะบางอย่าง]
และมี Corpses ที่จำเป็นสำหรับใช้ทักษะบางอย่างด้วย
ซึ่ง Corpses จะตกจากศัตรูทั่วไปและสามารถเรียกใช้ได้จากจุดที่มันตก


นอกจากนี้ ยังมีทักษะที่หยิบจาก Diablo II มาให้หายคิดถึงเช่นกัน
อย่างเช่น Corpse Explosion ที่อาศัย Corpses ในการใช้งานระเบิดศพเพื่อสร้างความเสียหายโดยตรง


Bone Spear หอกกระดูกโจมตีตรงระยะไกลที่หลายคนคิดถึง


และทักษะสายคำสาปอันแรก Decrepify
ใช้ในการทำให้ศัตรูช้าลง เหมาะแก่การรวบเป็นกลุ่มแล้วจัดการแบบทีเดียวจบ


อีกหนึ่งที่ถามหากันเหลือเกิน คือเหล่าโกมเลม ตอนนี้ก็เริ่มออกแบบแล้ว
และนี่คือดีไซน์ของ Blood Golem


แน่นอนว่านอกจากทักษะเก่าแล้ว ยังมีทักษะใหม่เพิ่มเข้ามาเช่นกัน
เพื่อจะรองรับการใช้ Essence จึงมีการเพิ่ม Siphon Blood เข้ามา
โดยมันจะดูดเลือดศัตรูเพื่อมาเพิ่ม Essence โดยเฉพาะ


ทักษะการเคลื่อนที่ก็จำเป็นเช่นกัน
Blood Rush สามารถพาผู้เล่นพุ่งออกไปในระยะสั้นๆได้
[ดูจากในไลฟ์ Blood Rush ใช้ได้ถี่พอสมควร น่าจะผลาญ Essense น้อย ใช้ฝ่าวงล้อมได้ดี]


Army of the Dead
น่าจะเป็นภาพที่หลายคนอยากเห็นมาก่อน คือการบัญชาคนตายโจมตีพร้อมกันในทีเดียว
[ดูทรงแล้ว มันคือ Nuke Skill นั่นแหละ แต่ถ้ามีเอฟเฟคเพิ่มเติมจากจุดที่โครงกระดูกออกจะเป็นอะไรที่น่าสนใจมากเลยทีเดียว ขึ้นกับว่าทีมพัฒนาจะออกแบบมายังไง]



และหลายคนน่าจะทราบไปแล้ว ว่าชุด Rise of the Necromancer
จะเป็น DLC ตัวแรกที่ไม่ใช่ Expansion วางขาย
ในแพ็คจะประกอบไปด้วย
ปลดล็อค Necromancer ซึ่งจะมีทั้งเพศหญิงและชาย
Pet, Portrait Frame, Pennant, Banner Shape และ Banner Sigil อย่างละ 1 ชิ้น
Character Slots และ Stash Tabs อย่างละ 2 ชิ้น
และกำหนดวางจำหน่ายจะเป็นครึ่งปีหลังของปี 2017
[ส่วนราคายังไม่ได้ประกาศอย่างเป็นทางการ]



     คราวนี้มาทางฝั่ง Console กันบ้าง ที่ในที่สุดพวกเขาจะได้เล่น Seasons กันบ้างเสียทีหลังจากรอกันมาอย่างยาวนานร่วมเกือบ 2 ปี


รายละเอียดหลักของ Seasons ส่วนใหญ่จะเหมือนบน PC แทบทุกประการ
ทั้งการสร้างตัวละครตลอดจนทำภารกิจต่างๆที่มอบหมายให้
มี Season Journey เช่นเดียวกัน


แน่นอนว่า Seasonal Rewards ก็เหมือน PC เช่นกัน
โดยใน Season 1 บน Console จะแจก Seraphim Wings พร้อมกันกับบน PC


ภาพหน้าจอ UI สำหรับการรับ Seasonal Rewards


Conquests & Leaderboards เองก็มาเช่นกัน


แต่ในเมื่อการบังคับบน Console ต่างจาก PC แล้วจะรับของจากที่เล่นใน Seasons ได้ยังไง?
จะมีการใส่คลังแยกไว้สำหรับรับของได้ตามสะดวก


สำหรับ Seasons บน Console นั้นจะมาในปี 2017
และเฉพาะเครื่อง Current-Gen (PS4 & XB1) เท่านั้น



     ปีหน้ายังเป็นปีที่หนักไปทางพัฒนาคุณภาพความสะดวกสบายเพื่อผู้เล่นอยู่เช่นเดิม ทีมยังคงรับฟังความเห็นผู้เล่นอย่างต่อเนื่องและปรับพัฒนากันไป เช่น


เคยรำคาญ Crafting Materials ที่กินพื้นที่คลังเก็บของมากใช่ไหม?
ต่อไปจะมี Crafting Materials Tab ที่สามารถดูรายละเอียดและจำนวนแยกไว้ต่างหาก
ทุกชิ้นที่เก็บมาจะถูกนับรวมในนี้หมดและไม่รกคลังของผู้เล่นอีกต่อไป


และเมื่อเก็บไอเทมอะไรไป จะมีรายละเอียดขึ้นมาให้เห็นอีกด้วย


สืบเนื่องจากย้าย Crafting Materials ไปไว้ Crafting Materials Tab แล้ว
ต่อไปก็ไม่ต้องลากจากคลังอีก แค่กด Fill วัตถุดิบที่จำเป็นกับสูตรผสมจะถูกจับเข้า Kanai's Cube 
โดยอัตโนมัติ


อะไรนะ? อยากเปลี่ยนสีชุดแต่รำคาญวาร์ปไปซื้อตามเมือง แถมบางทีไม่มีสีที่ต้องการ?
ในแพทช์หน้า Mystic จัดให้คุณได้ ครบทุกสีตามที่ต้องการเลย


อยากเร่งเลเวลของ Legendary Gems ทำยังไงดี
ทีมพัฒนาจึงหาทางใส่โบนัสพิเศษเพิ่มเข้ามาให้
ณ ปัจจุบันคือมีโบนัส "ไม่ตาย" แถมมาเพิ่มโอกาสในการเพิ่มเลเวล Legendary Gems ด้วย
[อันนี้ถือว่าน่าสนใจอยู่ เพราะนอกจากใช้เป็นโบนัสในการเร่งเลเวลระดับน้อยแล้ว ใน Greater Rifts ระดับสูงถือว่าคุ้มค่าพอจะเสี่ยงได้มาเหมือนกัน]



     ในปี 2017 จะมีพื้นที่เพิ่มใน Adventure Mode ใหม่เข้ามา 2 พื้นที่ด้วยกัน โดยทั้งคู่จะเป็นโซนเพิ่มเติมของ Act 2 Caldeum  นั่นคือ The Shrouded Moors และ Temple of the Firstborn



     มุ่งสู่ทางเหนือของ Caldeum คือ The Shrouded Moors ทุ่งหญ้าที่เต็มไปด้วยอากาศอับชื้นและลมกรรโชกที่พัดพาบรรยากาศ ณ ที่แห่งนี้ให้กลายเป็นสถานที่อาถรรพ์ที่แม้จะเคยมีหลายอาณาจักรพยายามมาตั้งรกรากแต่ล้วนล่มสลายไป กลายเป็นรังของสัตว์ดุร้าย และในส่วนลึกใต้ดินของที่นี่เอง คือที่ตั้งของ...



     Temple of the Firstborn มหาวิหารที่ตั้งอยู่ในส่วนลึกของ The Shrouded Moors อดีตที่พำนักของ Inarius และ Lilith เป็นสถานที่ที่กำเนิด Nephalem เป็นครั้งแรกและลัทธิของทั้งคู่อาศัยอยู่ภายในวิหารแห่งนี้ บรรกาศภายในมาเป็นกลิ่นโกธิคแบบสุด มืดมน ลึกลับ น่าค้นหา


     นอกจากนี้ยังมีรายละเอียดอื่นๆที่กำลังพัฒนาพอจะปล่อยให้ดู เช่น


     Realms of Fate คือพื้นที่ที่มิติของสถานที่ต่างๆเชื่อมต่อกัน นำจากพื้นที่หนึ่งไปอีกพื้นที่หนึ่งแบบสุ่ม [ดูแล้วเหมือน Layouts ที่เชื่อมต่อกัน] ปัจจุบันกำลังพัฒนา ยังบอกไม่ได้ว่าพร้อมเมื่อไหร่



ศัตรูใหม่ที่จะมา ทั้งใน The Shrouded Moors และ Temple of the Firstborn
รวมไปถึงที่จะเล่นกับสภาพแวดล้อมมากขึ้นด้วย



     นอกจากนี้ ยังคงฟังเสียงตอบรับกับ Greater Rifts อย่างต่อเนื่อง และจะมีการปรับปรุงเกี่ยวกับมอนสเตอร์มากขึ้น เช่น



     มีการปรับเปลี่ยนอัลกอริธึ่มปริมาณมอนสเตอร์ในพื้นที่อย่างเห็นได้ชัดเพื่อที่ผู้เล่นจะแทบไม่เจอพื้นที่ว่างเปล่าขนาดใหญ่อีกต่อไป และจะเกิดจุดใดก็ได้ในพื้นที่ (แต่ไม่ใช่ที่ทางเข้าแน่นอน)

      

     อีกอย่างที่ถูกปรับเปลี่ยน คือ มอนสเตอร์ เพื่อให้ง่ายต่อการกำจัดมากขึ้น จึงถูกปรับใหม่ เช่น มอนสเตอร์ที่สุดแสนน่ารำคาญเวลามันกระโดดจะพ้นจากการโดนโจมตี ตอนนี้สามารถสอยกลางอากาศได้แล้ว มอนสเตอร์ที่หายหัวได้จะมีระยะเวลาหายตัวสั้นลง สมุนอีลิธที่มีความสามารถ Shielding หากเหลือตัวสุดท้าย ความสามารถนี้จะเป็นหมันทันที และ อีลิธพร้อมสมุนที่มีความสามารถ Reflect หากโดนโจมตีด้วย Projectile จะสะท้อนเป็น Projectile ไม่ใช่ Instant Damage เข้าตัวผู้เล่นโดยตรงอีกต่อไป





และนอกจากนี้แต่ละคลาสจะมี Legendary Items ที่ถูกเพิ่มความสามารถเข้ามาคลาสละ 1 ชิ้น




     และสิ่งสุดท้ายที่จะพูดถึงคือ Challenge Rifts มันคือการหยิบคอนเทนต์ที่นิยมที่สุดอย่าง Greater Rifts มาทำในรูปแบบ Competitive หรือปรับให้ใช้ในการแข่งขันกันได้นั่นเอง โดยจะเป็นการแข่งกันทำเวลาเพื่อจบให้เร็วที่สุดนั่นเอง


     แล้วมันต่างจาก Greater Rifts ตรงไหน? มันคือการแข่งที่ทุกอย่างอยู่บนความเสมอภาคกัน ไม่ว่าจะไอเทมที่คุณใส่ บิวด์ที่เลือกใช้ ฉากที่เล่น มอนสเตอร์ที่เกิด ยันจนไพลอนก็อยู่ตำแหน่งเดียวกันหมด ต่างกันอยู่สิ่งเดียว คือ "ฝีมือ" สั้นๆง่ายๆคือการแข่งยอดฝีมือดีๆนี่เอง 
     คุณสามารถที่จะเข้าไปท้าทายซ้ำๆเพื่อหาเวลาที่ดีที่สุด ท้าทายคนอื่นให้เข้ามาเล่นกัน หรือแม้กระทั่งท้าทายแบบเป็นทีมที่ทั้งทีมใส่บิวด์เดียวกันหมดก็ย่อมได้
     ตอนนี้ทีมพัฒนายังไม่มีรายละเอียดอะไรมากนัก แต่เชื่อว่าจะเป็นคอนเทนต์ที่ดีในอนาคต เพียงแต่ว่าหลายอย่างยังไม่เป็นรูปเป็นร่าง เช่นหากชนะผู้เล่นอื่นจะได้รางวัลอะไรบ้างยังไม่แน่นอน



     สุดท้าย คอนเทนต์ต่างๆจะออกมาเมื่อไหร่?
สำหรับแพทช์ 2.4.3 จะออกภายในมกราคม 2017 ประกอบไปด้วย
  • The Darkening of Tristram
  • Legendaries สำหรับทุกคลาส
  • การเพิ่มโบนัสสำหรับอัพเกรด Legendary Gems
  • ยาย้อมสีที่ Mystic
ที่เหลือคอนเทนต์อื่นจะเป็นเรื่องในอนาคตปี 2017 คงต้องติดตามกันต่อไปว่าจะเป็นอย่างไร
     .

ความคิดเห็น

แสดงความคิดเห็น

บทความที่ได้รับความนิยม