[Review] [Diablo III] The Darkening of Tristram


     สวัสดีครับ ผม Crucifer กลับมาพบกับทุกท่านเช่นเคย และครั้งนี้จะเป็นการรีวิวสุดท้ายในปี 2016 ควบต่อจากแฟลชแบ็ครีวิว Diablo คือการรีวิวอีเวนท์พิเศษของ Diablo III ที่นับว่าเป็น Diablo Remake หรืออีเวนท์ที่มีชื่อว่า The Darkening of Tristram ที่จะมาพร้อมแพทช์ 2.4.3 นั่นเอง
   
     แม้จะมีเสียงมาบ้างทั้งดีและไม่ดี มาดูกันดีกว่าโดยแท้จริงแล้วนั้นมันเป็นอย่างที่ว่ากันรึเปล่า?



     หลังจากในงาน BlizzCon ที่ผ่านมา บางคนคาดหวังไว้ว่า 20th Anniversary Event การทำ Diablo ที่เป็นตำนานมารีเมคขึ้นใหม่มันต้องมีดีบ้างละน่า ซึ่งบอกได้ว่า พวกคุณคาดหวังสูงเกินไป... อันที่จริงแล้วจะพูดว่ารีเมคเต็มปากก็ไม่ได้ซะด้วยสิ มันเป็นแค่อีเวนท์ Diablo III ที่พาย้อนรำลึกไปยัง Diablo แค่นั้น 





     เหตุเกิดจากบรรดาเหล่า Cultists เก็บกู้ซากและบันทึกต่างๆของ Adria เพื่อมาศึกษาหาความลี้ลับและที่มาของพลังของ Adria แต่ดูเหมือนว่าพวกมันจะพบกับทางตัน ทันใดนั้น มีบางสิ่งยื่นมือเข้ามาบอกว่าจะมีช่วงเวลาสั้นๆที่ Old Tristram จะกลับมาอย่างที่มันเคยเป็น และนั่นคือโอกาสที่ Cultists จะรวบรวมคนแล้วค้นหาความลับของ Adria



หน้าต่างสู่อดีต จากความทรงจำของ Adria


ในกรณีที่หน้าต่างถูกเปิด จะเจอเครื่องหมาย Pentagram ที่ The Old Ruins


แต่ถ้าไม่มี Pentagram จะเจอพวก Cultists กำลังทำพิธีเปิดหน้าต่างแทน

     ถ้าจะพูดให้ถูกละก็ นี่ไม่ใช่ Diablo Remake แต่เป็นอีเวนท์เนื้อเรื่องที่แทรกแซง Diablo ดั้งเดิมแล้วกลายเป็นอีเวนท์เล่าใหม่ที่มีพื้นฐานมาจาก Diablo ต่างหาก

     นอกเหนือจากส่วนเรื่องราว อีเวนท์นี้จะมีการระลึกถึง Diablo ภาคแรกเป็นพิเศษ ไม่ว่าจะ GLORIOUS RetroVision™ ที่ทำให้ภาพดูเป็นพิกเซล (ซึ่งดูแล้วหยาบกว่า Diablo ภาคแรกซะอีก) การทำอนิเมชั่นเดิน 8 ทิศทาง การเคลื่อนไหวด้วยการเดินเพียงอย่างเดียว ตลอดจนระยะเวลาอีเวนท์ที่มีแค่ช่วงเดือนมกราคมตรงกับเดือนที่ Diablo ภาคแรกเปิดให้เล่น ซึ่งก็ทำให้ระลึกถึง Diablo ได้ระดับหนึ่ง






     ที่สำคัญ ยังมีการหยิบใช้ Layout กับ Model ทั้งมอนสเตอร์และฉากต่างๆที่ใกล้เคียงกับ Diablo ภาคแรกมาใช้ในอีเวนท์นี้ด้วย (Cave Layout ที่ไม่มีลาวายังพอเข้าใจ แต่ Hell Layout ที่เอา Halls of Agony มาแทนนี่ ทำไมไม่ใช้ Arreat Crater Layout แทนก็ไม่รู้ ดูไม่เข้ากับต้นฉบับภาคแรกเลย)




     จำคำที่พูดได้ไหมว่า มันเป็นแค่อีเวนท์ ไม่ใช่ Diablo Remake จริงๆด้วยซ้ำ เพราะฉะนั้น นอกเหนือจากความพยายามทำให้ดูเป็นเกมเก่าแล้ว เกมเพลย์ยังคงความเป็น Diablo III ไว้ทุกกระเบียดนิ้ว แม้อนิเมชั่นการควบคุมถึงจะเป็น 8 ทิศทางแต่ควบคุมได้ 360 องศา ไม่ว่าจะเป็นการเล็งหรือปล่อยสกิล ไม่มีเปลี่ยนไปแม้แต่นิดเดียว ทำให้หลายคนบอกว่ามันง่ายมาก ง่ายเกินไป

     ถ้าจะให้แนะนำว่าเล่นยังไงให้สนุก... สร้างตัวใหม่ ห้ามใช้ Paragon Point และปรับระดับความยากเท่าที่คุณเองต้องการ คือวิธีการเล่นอีเวนท์นี้ที่ดีที่สุด

     ถามว่าดีไหม ก็ดีในระดับหนึ่ง แต่มันก็อดเสียดายที่จะไม่มีเกมเพลย์แบบ Diablo ภาคแรกไม่ได้




     จากหัวข้อก่อนที่ได้คุยกันไปเรื่องการเปลี่ยนแปลงเนื้อเรื่อง ทำให้ส่วนของเควสในอีเวนท์นี้ที่ดัดแปลงมาจาก Diablo ภาคแรก โดนผลกระทบกันไปเต็มๆ ซึ่งแทนที่จะทำให้ได้ความรู้สึกทำเควสใน Diablo กลับกลายเป็นว่าไม่มี Npc สำหรับเนื้อเรื่องเพราะโดน Cultists ฆ่าตายหมดแล้ว






     หลายเควสเลยโดนตัดขั้นตอนลงมา แล้วไปดัดแปลงเป็นอย่างอื่นแทน นอกจากลดขั้นตอนลงมา หรือไม่เควสก็หายไปเลยแต่ยังมีอนุสรณ์ให้ดูอยู่อย่าง เช่น Gharbad the Weak และ Snotspill ที่กลายเป็น Unique Monsters ธรรมดาๆ หรือ Lachdanan ที่มาเจอก็กลายเป็นศพไปเรียบร้อย ทำให้ในส่วนของเควสที่ควรจะมีในอีเวนท์ดูแย่ไปเลย



     สิ่งที่ดูเหมือนจะแก้ขัดจุดบอดแล้วเสริมให้ในอีเวนท์มีอะไรทำบ้าง คงไม่พ้น Special Events Achievements หมวดใหม่ที่ถูกเพิ่มเข้ามาในส่วนของ General โดยมีอีเวนท์นี้เป็นอีเวนท์แรก ซึ่งก็มีอะไรให้ทำหลากหลายพอสมควร พร้อมทั้งรางวัล ทั้ง Butcher Pet, Banner Sigil & Banner Accent และ Classic Demon & Classic Angel Portrait Frames อาจจะมีการฟาร์มบ้างหากต้องการจะเก็บทั้งหมด แต่เชื่อเหอะ ไม่เกินกำลังหรอก





     และจะขาดไปไม่ได้หากไม่มีแรงจูงใจ นั่นคือ รางวัลนั่นเอง อีเวนท์นี้นับเป็นอีเวนท์ประจำปีที่มีรางวัลเยอะมากที่สุดเห็นจะได้ มีตั้งแต่รางวัลปกติจนถึง Easter Egg Items เยอะอยู่
     สิ่งแรกคือหลังจากโค่น The Dark Lord ได้แล้ว ผู้เล่นจะได้รับ Red Soul Shard ซึ่งถ้านำไปใส่ Helmet ก็จะได้ Red Soul Shard Transmog




     อีเวนท์นี้จะมีรางวัลจาก Special Events Achievements ได้แก่
  • Classic Demon & Classic Angel Portrait Frames
  • Banner Sigil & Banner Accent
  • Butcher Pet
  • Wirt's Leg








     นอกเหนือจากนี้ ก็จะเป็นพวก Easter Egg Items ที่มาจาก Diablo ภาคแรกให้ระลึกถึงนั่นเอง มี The Butcher's Cleaver ที่ได้ Transmog แถมมาเป็นพิเศษด้วย

     และยังมีความลับอีกอย่างหนึ่งเป็นรางวัล


     สปอยล์แค่นี้พอ ลองหาเองนะ บอกได้แค่ว่าเกี่ยวกับเด็กผู้ชายคนหนึ่ง


     ถ้าจะเรียกว่าเป็น Diablo Remake คงไม่ใช่ด้วยที่ว่าองค์ประกอบหลายอย่างไม่ว่าจะเกมเพลย์ที่ยังเป็น Diablo III หรือเควสที่ขาดหายไปจนแทบไม่เหมือนเดิม ทำให้มันรู้สึกไม่เติมเต็มสักเท่าไหร่
     แต่ถ้าคิดในแง่ของเนื้อเรื่องที่เป็นเอกเทศจนดูไม่เป็นรีเมค กลายเป็นอีเวนท์มันก็พอรับได้ แต่ก็ยังผิดหวังพอสมควรอยู่ดี คิดว่ามันควรจะดีกว่านี้สักหน่อย


Pros
+ เป็นอีเวนท์ที่รางวัลค่อนข้างเยอะอยู่เมื่อเทียบกับทุกอีเวนท์ที่ผ่านมา
Neutral
O เนื้อเรื่องแยกออกเป็นเอกเทศ มากกว่าจะเป็น Diablo Remake
O เกมเพลย์ยังยึดอยู่กับ Diablo III เลยไม่มีอะไรเป็นพิเศษ
Cons
- ถ้ามองในแง่ Diablo Remake เควสโดนตัดตอนไปหลายเควสมาก
- บทรวบรัดให้ Npc ตาย ส่วนของเควสที่ควรจะมีอะไรเป็นพิเศษเลยไม่มีเลย
- ทำไมต้องเอา Halls of Agony Layout มาแทน Hell Layout ทั้งๆที่มีที่ดีกว่าให้ใช้...

ความคิดเห็น

บทความที่ได้รับความนิยม