[Overview] [Diablo III] 2.6.0


     สวัสดีทุกท่าน Crucifer กลับมาแล้วครับและคราวนี้แน่นอนว่ายังกลับมากับรีวิว Diablo III เหมือนเดิม ในครั้งนี้ก่อนที่จะรีวิวคอนเทนต์ใหญ่อย่าง "Rise of the Necromancer" เราจะมาพูดถึงคอนเทนต์อื่นที่เพิ่มเข้ามาในแพทช์ 2.6.0 กันก่อน ซึ่งคอนเทนต์ที่จะรีวิวในส่วนนี้คือคอนเทนต์ฟรี (สำหรับคนที่มี Reaper of Souls นะ) ประเดิมด้วยพื้นที่ใหม่ 3 แห่ง การมาของ Challenge Rifts และขาดไม่ได้เลย Season 11 ที่จะวนมาเช่นเดิม


     Inside Diablo III 2.6.0 Review

  • New Areas: Shrouded Moors & Temple of the Firstborn
  • New Area: Realms of Fate
  • Challenge Rifts
    • Season 11
      • Season Journey
      • Conquests
         มาว่ากันด้วยพื้นที่ใหม่ทั้ง 3 ก่อน โดยจะแยกเป็น 2 ส่วนหลักตามเรื่องราวในเกม



         ทางตะวันออกเฉียงเหนือของ Caldeum มีบึงแห่งหนึ่งที่เต็มไปด้วยกลิ่นเน่าเหม็น เต็มไปด้วยสิ่งก่อสร้างยุคโบราณที่บ่งบอกว่ามนุษย์เคยอาศัยอยู่ นอกจากนี้ยังเป็นถิ่นที่อยู่สัตว์ร้ายนานาชนิด แต่ที่สำคัญคือมันมีร่องรอยการมาของลัทธินอกรีตที่มีมาแต่โบราณกาล



         ณ ใจกลางบึงนั้น มีถ้ำที่ซ่อนบางสิ่งไว้ให้พ้นจากสายตาของเหล่าสิ่งมีชีวิตภายนอก เป็นวิหารขนาดใหญ่ที่เต็มไปด้วยคลื่นความหวาดกลัวและกลิ่นคาวเลือดคละคลุ้ง ประตูบานใหญ่ที่เปิดต้อนรับผู้หาญกล้าสู่วิหาร สถานที่นั้นคือ Temple of the Firstborn




         วิหารที่เป็นหัวใจของ Shrouded Moors แห่งนี้ ใครจะรู้ว่าครั้งหนึ่งเป็นสถานศักดิสิทธิ์ที่ Inarius และ Lilith เคยอยู่ร่วมกันและให้กำเนิดเนฟาเลมรุ่นแรก ที่แห่งนี้ เหล่าสาวกลัทธินอกรีตกลุ่มนี้ใช้เป็นสถานที่ตั้งรกรากสร้างกลุ่มเพื่อบำเพ็ญตนแสวงหาการบรรลุสู่สรวงสวรรค์ แต่แท้จริงแล้วเป็นการเปลี่ยนตัวตนจากมนุษย์ไปสู่บางสิ่งที่"วิปริต" และ ณ ที่แห่งนี้ Vidian, Lord of Envy รอคอยที่จะช่วงชิงและดึงพลังของเนฟาเลมมาเป็นของตนเอง

         ความพิเศษของพื้นที่ที่โดดเด่นคงไม่พ้นการออกแบบที่ได้สไตล์โกธิคแบบดั้งเดิมที่มีกลิ่นของ Diablo II มาเติม แน่นอนว่าพื้นที่นี้มาพร้อมกับ Bounties ใหม่เช่นกัน และสิ่งที่พิเศษอีกอย่างคือ"บอส" การมาของพื้นที่นี้มาพร้อมกับบอสใหม่ที่อยู่นอกเหนือจากเนื้อเรื่องหลักเป็นครั้งแรก

         ในส่วนของการออกแบบพื้นที่ คงไม่ต้องบอกเรื่องสภาพแวดล้อมว่าสวยแค่ไหนเพราะมันดีมาก แต่ Shrouded Moors จะเป็นพื้นที่เปิดใหญ่ ๆ หลายพื้นที่ประกอบรวมกันแล้วเชื่อมด้วยเส้นทางเล็ก มีศัตรูพอสมควรแต่ไม่รู้สึกเยอะเท่าไหร่ แต่ประเด็นคือเป็นพวกที่มีความสามารถพอสมควรอย่างมนุษย์หมาป่าที่สามารถโดดเข้ามาประชิดตัวได้ในทันที ในขณะที่ Temple of the Firstborn จะเป็นโถงกับห้องเล็กๆและทางเดินสลับกันไปมา ศัตรูเยอะแต่ส่วนใหญ่เป็นพวกลัทธินอกรีตที่จัดการง่ายกว่าพวกมนุษย์หมาป่าเยอะ






         หลังการจู่โจมของ Diablo ในร่าง Prime Evil เหล่าเทวาของซ่อมแซมพื้นที่ High Heavens ที่เสียหายทั้งหมด ทว่า Itherael ได้สังเกตว่า มีมุมหนึ่งของ Library of Fate เกิดสิ่งผิดปกติขึ้น บรรดาบันทึกและเรื่องราวประวัติศาสตร์ที่อยู่ในห้องสมุดได้แปรเปลี่ยนเป็นพื้นที่ต่าง ๆ และดูเหมือนมันจะเป็นภัยต่อทุกสิ่ง Tyrael จึงส่งเนฟาเลมไปสืบเรื่องนี้

         พื้นที่นี้ประกอบไปด้วย

    • Realm of Unbending Fate
    • Realm of Fractured Fate
    • Upper Realm of Infernal Fate
    • Lower Realm of Infernal Fate
    • Upper Realm of Cursed Fate
    • Lower Realm of Cursed Fate


         สำหรับพื้นที่ใหม่นี้มีหลายส่วนและกระจายไปตาม High Heavens แต่จะมีพื้นที่เริ่มหลักเป็น Library of Fate ในส่วนของ Layout เป็นการนำพื้นที่หลายส่วนมาประกอบต่อกัน สิ่งที่น่าสนใจในพื้นที่นี้มีอยู่ 2 อย่างด้วยกัน นั่นคือ



    • การเชื่อมแผนที่เหล่านี้นำเอาเงื่อนไขพิเศษบางอย่างของแผนที่เหล่านั้นมาด้วย เช่น Upper Cursed Fate จะมีส่วนที่เป็น Tidal Cave ซึ่งจะมี Senahde's Idol ที่เมื่อแตะแล้วสามารถเรียก Senahde ออกมาได้จริงเหมือนใน Tidal Cave ที่ Greyhollow Island
    • Layout ใหม่ที่ปรากฎขึ้นใน Upper Cursed Fate ที่มีชื่อว่า The Labyrinth เป็นพื้นหลังใหม่ที่ไม่เคยปรากฎที่ไหนมาก่อน เชื่อว่าอาจเป็นการบอกใบ้ถึงพื้นที่ใหม่ในอนาคต

         ในความเป็นจริงแล้วอยากให้พื้นที่นี้เป็น RNG Map แบบเดียวกับ Nephalem Rifts แต่ไม่ทราบว่าด้วยเหตุใด อาจเพราะเงื่อนไขพิเศษที่พ่วงมาทำให้ไม่สามารถสุ่มพื้นที่ใหม่ได้

         นั่นคือ สิ่งที่พอจะพูดได้เกี่ยวกับพื้นที่ใหม่ทั้ง 3 แห่ง จากนี้จะเป็นเรื่องของคอนเทนต์ใหม่อีกอัน




         ในงาน BlizzCon X เราได้เห็นของคอนเทนต์นี้และเมื่อปล่อยออกมาในแพทช์นี้มันก็เป็นไปตามนั้น มันคือการดึงบิวด์ที่น่าสนใจจากใน Greater Rifts มาเพื่อท้าทายผู้เล่นอื่นให้ทดลองบิวด์และทำลายสถิติเจ้าของบิวด์เดิมเพื่อเพิ่มความเชี่ยวชาญมากขึ้น โดยการทดสอบจะใช้บิวด์ แผนที่ ตำแหน่งมอนสเตอร์ จำนวน Elite จุดวาง Pylons เหมือนกันทุกประการ หากพิชิตได้จะได้รับรางวัลรายสัปดาห์มาล่อตาล่อใจ นอกจากนี้ยังมีการแข่งกันใน Challenge Rift Leaderboard เพื่อหาผู้ที่ทำเวลาเร็วที่สุดอีกด้วย

         โดยภาพรวมเป็นคอนเทนต์ที่สนุกพอสมควรเลยละ แต่แทบจะไม่มีค่าให้เล่นซ้ำหากหวังรางวัล เพราะถ้าไม่วนขึ้นสัปดาห์เปลี่ยนบิวด์ก็จะไม่รีเซ็ตรางวัลใหม่ อย่างที่กล่าวไว้ตอนแรกว่า รางวัลเป็นรายสัปดาห์เพราะฉะนั้นหากใครหวังจะเก็บรางวัลมาไว้ใช้ในโหมดต่าง ๆ คงต้องผิดหวังตามกันไป แม้ว่าจะเปลี่ยนมาเป็นเล่น 2 คน 3 คน หรือ 4 คน ก็ไม่ได้มีรางวัลเพิ่มมารองรับ คนที่จะหมุนเวียนมาเล่นจริง ๆ ก็มีแต่คนที่จ้องจะแข่งทำลายสถิติกันเท่านั้น

         ซึ่งการที่ใช้บิวด์ แผนที่ ตำแหนางมอนสเตอร์ จำนวน Elite จุดวาง Pylons เหมือนกันทุกประการแบบนี้ก็เป็นดาบสองคมอยู่นะ เพราะการที่เงื่อนไขเหมือนกันทุกอย่างทำให้การปั่น Challenge Rift Leaderboard เป็นการแข่งขันที่เสมอภาค สิ่งที่คุณต่างออกไปจริงมีเพียงแค่ฝีมือที่จัดลำดับกันเท่านั้น แต่ข้อเสียคือ ด้วยความซ้ำซาก หากไม่มีรางวัลล่อตาล่อใจก็คงเล่นไม่นานถ้าไม่เกี่ยงเรื่องรักษาตำแหน่งใน Challenge Rift Leaderboard

         สรุปก็คือ หากจะให้ Challenge Rifts เป็นที่นิยมแม้ในหมู่ผู้เล่นทั่วไปยังถือว่ายังซ้ำซากและขาดแรงจูงใจ ควรจะปรับปรุงวิธีการให้รางวัล แต่ในเรื่องการไต่ระดับ Leaderboard ถือว่าเป็นอะไรที่เสมอภาคและแฟร์ที่สุดแล้ว ซึ่งจะดึงดูดพวกหัวตารางให้เล่นได้นาน ถ้ามีคนวนทำลายสถิตินะ...




         มาถึงคอนเทนต์ยอดนิยมประจำกันแล้ว และใน Season 11 ยินดีอย่างยิ่งที่จะได้มี Treasure Goblin Portrait Set สวย ๆ มาเพิ่มอีกเซ็ตหนึ่ง มาพร้อมกับ Emerald Serpent Pet ซึ่งอันนี้ผมเฉย ๆ รู้สึกไม่น่าสนใจเท่า Treasure Goblin Portrait Set สักเท่าไหร่



         ต่อกันด้วย Season Journey ที่ภารกิจอยู่ตัวแล้ว จะมีที่ยากสำหรับคนที่จะจบระดับ Guardian ก็คือฆ่า Urzael ที่ระดับความยาก Torment XIII ภายใน 20 วินาทีนั่นแหละ มีบางคลาสทำได้และบางคลาสจะลำบากหน่อยเพราะมันมี 2 เฟส จะลำบากกับสกิลของบางคลาส ใครทดลองหาหนทางแล้วทำไม่ได้ แนะนำให้หาเพื่อนที่เป็นสาย Full Damage ดูครับ น่าจะช่วยได้เยอะ



         สุดท้ายที่จะกล่าวถึงในส่วนของรีวิวนี้คือ Conquests ซีซั่นนี้ไม่ยากสำหรับโหมดปกติ แต่ Hardcore ต้องทำใจหน่อยเพราะมี Lionhearted ที่ต้องไต่ให้จบ Greater Rift 75 ให้ได้ มาพร้อมกับ Time Trial Conquests อีก 3 คู่ คือ Avarice & Avaritia, Boss Mode & Worlds Apart และ Speed Demon & Need for Speed อีกด้วย พร้อมพ่วง Masters of the Universe & Masters of Sets ที่จะทำให้ผู้เล่นต้องสร้างตัวละครอีกตัวเพื่อจบ Conquests ทั้งหมด


         โดยรวมแล้วคอนเทนต์มีหลายส่วนที่ดีและด้อยสลับกันไปสำหรับแพทช์นี้ หลายอย่างควรที่ต้องกลับไปคิดและปรับปรุงเพื่อให้คนเข้าถึงมากขึ้น โดยเฉพาะอย่างยิ่ง Challenge Rifts

    Pros
    + เรื่องการออกแบบพื้นที่ Shrouded Moors และ Temple of the Firstborn ถือว่าดี
    + Challenge Rifts คือการแข่งขันที่เสมอภาคและแฟร์ที่สุด
    + ของรางวัล Season 11 ยอดเยี่ยม
    + Season Journey และ Conquests ที่สามารถทำได้ง่ายเสียส่วนใหญ่
    Cons
    - พื้นที่ Realms of Fate สามารถเพิ่มลูกเล่นได้มากกว่านี้ แต่ไม่ได้ใส่มาเท่าที่ควร
    - Challenge Rifts ไม่สามารถดึงดูดผู้เล่นได้เท่าที่ควรเพราะรางวัลน้อยและความซ้ำซาก


         และในรีวิวต่อไปเราจะพูดถึงคอนเทนต์ใหม่อีกส่วนอย่าง Rise of the Necromancer ที่จะมาในเร็ว ๆ นี้ อย่าลืมติดตามนะครับ เพราะมีเรื่องที่อยากพูดถึงเหมือนกัน

    ความคิดเห็น

    บทความที่ได้รับความนิยม