[Review] [Diablo III] Rise of the Necromancer


     สวัสดีครับ ในที่สุดก็ได้เจอกันอีกครั้งและครั้งนี้จะนำคอนเทนต์หลักล่าสุดของ Diablo III มารีวิว นั่นคือ DLC Pack "Rise of the Necromancer" นี่เป็นครั้งแรกที่ Blizzard ปล่อยคอนเทนต์ของเกม Diablo III ในฐานะ DLC ไม่ใช่ส่วนขยายอย่าง Expansion เพราะฉะนั้น จะดีหรือไม่ อันนี้ลองดูสิ่งที่ผมจะเขียนแล้วพิจารณากัน


     อย่างแรกที่เราต้องรู้เลยก็คือ DLC นี้ให้อะไรเราบ้าง? ที่แน่นอนก็คือ คลาสใหม่(ที่น่าจะเรียกว่าคลาสเก่าที่มีคนเรียกร้องกลับมามากที่สุด)อย่าง Necromancer และยังมีของตกแต่งตัวละครเพิ่มเติมอีกจำนวนหนึ่งพร้อมทั้งช่องเก็บของในหีบและช่องสร้างตัวละคร แต่ในตอนนี้เราจะมาพูดถึงคอนเทนต์หลักอย่างคลาส Necromancer กันก่อน


     เมื่อครั้งกำเนิด Sanctuary เนฟาเลมตนแรกที่ถือกำเนิดได้ถูกกล่าวขานนามว่า "Linarian" ว่ากันว่าเป็นสิ่งมีชีวิตที่มีรูปร่างประหลาดคล้ายงูยักษ์ที่มีรูปร่างคดเคี้ยว เมื่อกำเนิดขึ้นมาเขาได้เข้าไปอาศัยใต้พื้นโลก ณ ที่นั่นเขาศึกษาในเรื่องราวของชีวิตและความตาย เขายินยอมสอนศาสตร์ต่าง ๆ ที่เขารู้ให้แก่ผู้ที่ดั้งด้นไปหาถึงรัง


"Linarian" หรือภายหลังถูกขนานนามว่า "Rathma"

     ภายหลังเมื่อครั้งเนฟาเลมรุ่นหลังถูกลดพลังโดย Inarius ได้ใช้ Worldstone จำกัดพลังรุ่นต่อมารวมทั้งการกวาดล้างเหล่าเนฟาเลมรุ่นแรก เขาได้หนีไปยังอีกภพหนึ่ง ที่ซึ่งเป็นภพของ Trag'Oul สิ่งมีชีวิตรูปร่างเหมือนมังกรที่ทำหน้าที่ปกป้อง Sanctuary ณ ที่นั่นเขาขอเป็นศิษย์และศึกษาเรื่องราวสมดุลของความสว่างและความมืด รวมถึงได้รับนามใหม่จาก Trag'Oul ว่า "Rathma" ซึ่งแปลว่า "นักเรียน"

     ในครั้งสงครามบาป (The Sin War) เขาได้สัมผัสถึงการกลับมาของ Lilith และได้ค้นหาทุกวิถีทางเพื่อหยุดเธอ จนรับรู้ถึงพลังของสองพี่น้อง Ul-Diomed คือ Mendeln กับ Uldyssian ภายหลังทั้งสองได้กลายเป็น Necromancer สองคนแรกในประวัติศาสตร์

     Rathma ได้เข้ามามีบทบาทในการช่วยสองพี่น้อง Ul-Diomed ระหว่างสงครามบาปอย่างมหาศาล และหลังจบสงครามเขาได้ฝากฝัง Mendeln ให้หาศิษย์ใหม่และฝึกฝนพวกเขาเพื่อที่จะเป็นผู้ปกป้อง Sanctuary ต่อไป


Priests of Rathma

     Priests of Rathma จึงถูกก่อตั้งโดย Mendeln เพื่อเป็นผู้ปกป้อง Sanctuary ต่อต้านการเข้ามารุกรานไม่ว่าจะจาก High Heavens หรือ Burning Hells ก็ตาม

     นอกเหนือจากนี้มี Comic Short ว่าด้วยการหาศิษย์ของเหล่า Priests of Rathma - The Chosen

     พวกเขาคัดเลือกผู้ที่สนใจในเรื่องชีวิตและความตายตลอดจนมีคุณสมบัติที่เหมาะสม จากนั้นสอนศาสตร์ต่าง ๆ ให้ ตลอดจนแนวคิดการรักษาสมดุลของความสว่างและความมืดจากนั้นจึงปล่อยพวกเขาออกสู่โลกภายนอกและไปยังทุกที่ที่ต้องการพวกเขา


Essence & Corpse

     ศาสตร์ที่ Necromancer มีใช้กับสิ่งมีชีวิตเป็นหลัก ไม่ว่าจะเป็นหรือตายศัตรูของพวกเขาจะถูกนำมาใช้เป็นเชื้อเพลิงในการทำลายพวกมันเอง Resource ของคลาสนี้จะมีอยู่ 2 อย่าง คือ Essence ที่เป็นค่าพลังพื้นฐานหลักและ Corpse ที่มีโอกาสตกเมื่อศัตรูตายเป็นตัวต้นสำหรับบางทักษะ

     และอีกหนึ่ง Resource ลับสำหรับทักษะใช้เลือดบางสกิล คือ Health นั่นเอง

     ทักษะที่ใช้จะมีด้วยกัน 3 ธาตุหลัก คือ Physical, Poison, Cold และมีทักษะ 4 กลุ่มด้วยกัน ได้แก่

  • Corpses - ทักษะที่ใช้ Corpse เป็นตัวต้นไม่ว่าจะเพื่อหมุนเวียน Resource ไว้ใช้งานหรือโจมตีโดยตรง มีทักษะคืนชีวิตศัตรูมาเป็นพวกชั่วคราวด้วย ทักษะสายนี้ได้แก่ Corpse Explosion, Corpse Lance, Devour, Revive
  • Reanimation - ทักษะที่เรียกลูกสมุนมาใช้งานตลอดจนโจมตีหรือใช้ความสามารถพิเศษบางอย่างตลอดจนคุมพื้นที่ด้วยลูกสมุน ได้แก่ Command Skeletons, Command Golem, Army of the Dead, Land of the Dead
  • Curses - สารพัดคำสาปที่ทำให้ความสามารถลดลง ได้แก่ Decrepify, Leech, Frailty
  • Blood & Bone - ทักษะที่ออกไปทางสนับสนุนหลายอย่าง ซึ่งมีโอกาสใช้บ่อย ได้แก่ Bone Armor, Bone Spirit, Blood Rush, Simulacrum



     Necromancer น่าจะเรียกว่าเป็นคลาสที่ไอเทมต่าง ๆ ยึดตามกลุ่มทักษะ ยิ่งเซ็ตไอเทมยิ่งชัดเจนเข้าไปอีก ในส่วนเซ็ตไอเทมจะมีทั้งหมด 4 เซ็ตหลักและ 1 เซ็ตอาวุธประจำคลาส

  • Bones of Rathma - ใช้ Skeletal เป็นหลักไม่ว่า Summom Skills หรือ Nuke Skills แต่โดยปกติใช้สร้างสาย Summon Skills และใช้คู่กับ Jesseth Arms
  • Trag'Oul's Avatar - เน้นทักษะการใช้เลือดโจมตีและหมุนเวียนเลือดมาเลี้ยงเพื่อสามารถใช้ทักษะอย่างต่อเนื่อง ซึ่งต้องอาศัยความชำนาญค่อนข้างสูง
  • Pestilence Master's Shroud - เน้นการเปลี่ยนศพมาเสริมพลังให้ Bone Spear สร้างความรุนแรงอย่างมหาศาลตามศพที่ใช้ แต่ต้องแน่ใจว่ามี Corpse เพียงพอหมุนเวียน
  • Grace of Inarius - สร้าง Bone Armor ที่เป็นพายุวนรอบตัวคล้ายใน Diablo II และเน้นการเข้าประชิดสร้างความเสียหายแบบ AoE รวมทั้งรับความเสียหายเพิ่มเติมทุกทาง
  • และยังมีเซ็ตอาวุธ Jesseth Arms ที่เพิ่มพลังโจมตีให้ลูกสมุนทั้งหมดอีกด้วย

     ในด้านไอเทมเรียกว่าแทบจะผูกขาดกับทักษะใดทักษะหนึ่ง ยิ่งเซ็ตไอเทมยิ่งชัดเจนมาก ก่อนหน้านี้ผู้เล่นหลายคนมีความพยายามในการดัดแปลงอยู่บ้างในช่วงเปิดตัวใหม่ ๆ แต่ ณ ที่เขียนรีวิวตอนนี้น่าจะเรียกว่าพังอย่างสิ้นเชิงเพราะถ้าไปสำรวจตารางจัดอันดับ Greater Rifts ตอนนี้จะมีแต่คนใช้เซ็ตใดเซ็ตหนึ่งเพียงเซ็ตเดียวเกือบทั้งหมด ทำให้ขาดความหลากหลายในการสร้างสายต่าง ๆ พอสมควร

     นอกจากนี้ขอพูดอีกนิดหน่อยแล้วกัน ความสามารถเซ็ตบางอย่างเข้าขั้นไร้ประโยชน์เมื่อต้องนำมาใช้จริง อย่างการลดคูลดาวน์ของทักษะ Army of the Dead ของเซ็ต Bones of Rathma ไร้ประโยชน์โดยสมบูรณ์ด้วยความที่คูลดาวน์เยอะและมีตัวเลือกใช้ไอเทมที่มีประสิทธิภาพมากกว่าอย่าง Jesseth Arms ความสามารถลดคูลดาวน์ Army of the Dead เลยเป็นหมันไปเลย ได้แต่ภาวนาให้ออกแบบความสามารถใหม่ในเร็ววัน




     ในด้านเกมเพลย์หลายคนวิจารณ์นำไปเทียบกับ Diablo II ซึ่งเป็นเรื่องที่สำคัญมาก ด้วยสไตล์ของเกมเพลย์ที่เปลี่ยนไปของภาคนี้ทำให้หลายทักษะเปลี่ยนไป(หรือถูกนำออกไป)จาก Diablo II อย่างข้อจำกัดเรื่องการเรียก Skeletons ที่เปลี่ยนจากการใช้ทักษะกับศพเรียกออกมาแล้วให้ A.I. บังคับสมบูรณ์ กลายเป็นสามารถเรียกอัตโนมัติแล้วใช้ทักษะเพื่อบังคับโจมตีเป้าหมายแทน การเรียก Skeletal Mage ที่เปลี่ยนจากการเรียกออกมาถาวรเป็นชั่วระยะเวลาหนึ่ง ทำให้การควบคุมค่อนข้างต่างจาก Diablo II อย่างมาก ความเปลี่ยนแปลงเหล่านี้ทำให้การเล่นเปลี่ยนจนเรียกว่าขัดใจเหล่าแฟนรุ่นเก่ามากทีเดียว แต่หากมองถึงเกมเพลย์ที่เปลี่ยนไปตามยุคสมัยก็ถือว่ามันทำได้ดีในระดับหนึ่ง

     อย่างที่กล่าวข้างต้น ด้วยความเปลี่ยนแปลงของทักษะ ทำให้ Core Gameplay ของ Necromancer ต่างจาก Diablo II ด้วยความที่ทักษะเรียกร้อง Resource ค่อนข้างสูง เกมเพลย์จึงบังคับให้เกิดการหมุนเวียนระหว่าง Resource ทั้งหมด ไม่ว่าจะเป็นการดูด Essence ด้วย Devour หรือดึง Corpse มาใช้กับ Corpse Lance โดยตรง ตลอดจนการดูดเลือดเพื่อนำทักษะสาย Blood มาใช้หมุนเวียน เกมเพลย์ของ Necromancer ใน Diablo III จึงเปลี่ยนไปกลายเป็นการบริหาร Resource ซะเป็นหลัก

     และสืบเนื่องจากที่กล่าวไปในหัวข้อไอเทม เรื่องความหลากหลายของการพยายามผสมใช้เซ็ตไอเทมมากกว่า 1 เซ็ตแทบจะหาไม่ได้เลย ถือว่าสอบตกในการออกแบบให้ดัดแปลงหลากหลาย แต่ที่อยากชมก็มีอยู่อีกอย่างคือเรื่องของ Gameplay ทักษะแต่ละสายมีความชัดเจนในตัวมันเอง นอกจากนี้เซ็ตยังสนับสนุนความเป็นสายใดสายหนึ่งไปจนสุดทาง และความสามารถทุกเซ็ตทำให้สไตล์เกมเพลย์แตกต่างอย่างชัดเจน อย่าง Grace of Inarius ที่เน้นประชิด Bones of Rathma ที่เรียกสมุนออกมาทั้งโจมตีและป้องกันในตัวแต่ควบคุมพลังโจมตีและ Essence ยากมาก Trag'Oul's Avatar ที่เล่นระยะไหนก็ได้แต่ควบคุมเลือดให้ดี และ Pestilence Master's Shroud ที่เน้นระยะไกลแต่เน้นการหมุนเวียน Corpse ทั้งหมดมีแก่นของเกมเพลย์เดียวกันคือการหมุนเวียน Resource ถือเป็นจุดแข็งของเกมเพลย์คลาสนี้ อันนี้ขอชมจากใจ



     แน่นอนว่าคลาสใหม่อย่าง Necromancer ก็สามารถเล่น Campaign Mode เทียบเท่า Reaper of Souls ตามปกติและมี Achievements มาเสริม เช่นเดียวกับที่มีให้สะสมใน Adventure Mode ตลอดจน Set Dungeons ก็มีตามมาเช่นกัน และค่อนข้างง่ายซะด้วย (ยกเว้น Bones of Rathma)


     และดูเหมือนรางวัลก็ค่อนข้างคุ้มค่าซะด้วย ทั้งปีก Trag'Oul Wings ที่เหมาะกับ Blood Master Pennant กับ Necromancer Pennant ที่เข้ากับ Wings of the Crypt Guardian


หาเซ็ตของ Necromancer ใช่ไหมละ! หาไม่เจอหรอก เพราะมันไม่มี...

     ส่วนเรื่องชวนบ่นก็มีอยู่บ้าง เพราะตอนแพทช์ 2.6.0 มีการลืม Necromancer เข้ามาในลิสต์ Season Achievements บางอันอย่าง คนที่ตั้งใจเก็บให้ครบเลยต้องสร้างคลาสใหม่เพื่อมาทำ Season Achievements แค่ไม่กี่อัน แสดงถึงความไม่รอบคอบของทีมพัฒนาในตอนนั้น... ไม่รอบคอบพอ ๆ กับที่ไม่รู้ว่าจะใส่ลดคูลดาวน์ Army of the Dead ใน Bones of Rathma มาทำไมนั่นแหละ... มาแก้เพิ่มรายละเอียดของ Necromancer ก็ตอนแพทช์ 2.6.1 นี้เอง


     มาว่าประเด็นที่หลายคนอยากถาม "แล้วมันคุ้มไหม?" เรามาดูกันก่อนว่า คุณจะได้อะไรกับ DLC



แน่นอนว่าเราได้ Necromancer มาเล่น


Wings of the Crypt Guardian ที่เข้ากับ Necromancer Pennant จาก Set Dungeons Achievements


Half-Formed Golem Pet


Banner Sigil, Banner Accent, Banner Shape


Blood Master Pennant ที่เข้ากับ Trag'Oul Wings จาก Necromancer Class Achievements


Necromancer Portrait Frame


2 Hero Slots


2 Stash Tabs

     ตรง ๆ เลยนะ ทั้งหมดนี่ในราคาเต็มราว ๆ $15 หรือ ฿570 สำหรับผมถือว่าโอเค ของที่แถมมาถ้าให้เทียบเท่าประมาณราคาอัพเกรดเป็น Digital Deluxe ของ Expansion นั่นแหละ (อันที่จริงน้อยกว่าด้วยซ้ำเพราะราคาอัพเกรดคือ $20) ซึ่งถ้าใครซื้อเกม Blizzard อยู่แล้วจะเข้าใจจุดนี้ดี ถ้ามองว่าจะให้เป็นทุนพัฒนาเกมก็ดี เพราะฉะนั้นส่วนตัวผมไม่ซีเรียสเท่าไหร่และถ้ามันทำให้เกมมีโอกาสพัฒนาต่อก็คุ้ม


      ภาพรวมของ DLC นี้ค่อนข้างดี ในส่วน Necromancer สำหรับผมเนื่องด้วยมีเกมเพลย์ที่บางทีดูมีอะไรมากกว่าบางคลาสในเกมนี้โดยเฉพาะด้านการควบคุม ทำให้ได้คะแนนที่ดี เพียงแต่ขาดความหลากหลายเพราะเกมเพลย์ที่แตกต่างตามความสามารถเซ็ตทำให้ความสามารถในการดัดแปลงผสมเซ็ตไอเทมต่าง ๆ นำมาใช้งานได้น้อยลง แทบจะไม่เจอเซ็ตลูกผสมบนตารางจัดอันดับ Greater Rifts อีกแล้ว
     ส่วนเรื่องไอเทมแถมมานี่ โอเค กินขาดและราคากำลังดีเพราะเหมือนซื้ออัพเกรด Digital Deluxe ในราคาที่ถูกกว่าปกติพอสมควรเลยละ ยังไม่รวมที่มาจากทำ Achievements อีกนะ


Pros
+ การดัดแปลงเกมเพลย์ยุคปัจจุบันของ Necromancer ทำให้มี Core Gameplay ของตัวเองที่แน่น
+ เซ็ตไอเทมทำให้ Necromancer มีเกมเพลย์ปลีกย่อยที่ดี
+ ไอเทมแถมระดับอัพเกรด Digital Deluxe ในราคาที่ถูกกว่าหน่อย
+ มีไอเทมให้ปลดล็อคในเกมฟรีเพิ่มเติมอีก
Cons
- ด้วยการที่เซ็ตไอเทมไปผูกมัดกับทักษะใดทักษะหนึ่งมากเกินไปทำให้ไม่เกิดความหลากหลาย
- หักคะแนนเพราะความไม่รอบคอบของทีมพัฒนาที่ไม่เพิ่ม Achievements ตอนแพทช์ 2.6.0

ความคิดเห็น

แสดงความคิดเห็น

บทความที่ได้รับความนิยม