[Review] [Assassin's Creed Origins] The Curse of the Pharaohs



     สวัสดี Crucifer เอง กลับมาพบกันอีกแล้วกับรีวิวเกมเช่นเดิมแม้ครั้งนี้จะมาสายเล็กน้อยเพราะไประเบิดภูเขาเผาโคเคนมาก็ตาม... ครั้งนี้มากับ DLC เนื้อเรื่องสุดท้ายของ Assassin's Creed Origins ในชื่อว่า The Curse of the Pharaohs ซึ่งค่อนข้างแตกต่างกับ The Hidden Ones พอสมควรเพราะมีรายละเอียดเล็ก ๆ น้อย ๆ เพิ่มขึ้นในส่วนของเกมเพลย์รวมไปถึงเป้าหมายหลักของ Main Quests ที่ต่างจากเนื้อเรื่องหลักและ The Hidden Ones ภายใน DLC นี้จะมีอะไรบ้าง มาดูกันเลย




     ว่ากันด้วยเนื้อเรื่องก่อนเลย เรารู้กันอยู่แล้วว่าภาคหลักและ The Hidden Ones มีเป้าหมายอยู่ที่การตั้งองค์กรภาคีมือสังหารขึ้นมาและมีกฎบัญญัติอย่างเป็นทางการ แต่ใน The Curse of the Pharaohs จะไม่เล่าเรื่องนั้นอีกแล้ว


     กลับกันจะเล่าเรื่องราวของเครื่องรางชิ้นหนึ่ง (ซึ่งถ้าคุณเป็นแฟนซีรี่ย์จะรู้ว่าผมกำลังพูดถึงอะไร...) ที่เชื่อว่านำคำสาปมาสู่ Thebes และดินแดนโดยรอบ ปลุกชีพฟาโรห์จากอดีตกาลขึ้นมาเข่นฆ่าชาวเมือง โดยจะมีมากัน 4 พระองค์ คือ Nefertiti ผู้ได้รับการกล่าวว่าเป็นราชินีที่งดงามที่สุด, Akhenaten ฟาโรห์ผู้ตั้งตนเองเป็นเทพเจ้า, Ramesses ผู้ยิ่งใหญ่จากสงคราม และ Tutankhamun ผู้รื้อฟื้นประเพณีเก่าแก่  Bayek เองที่ได้รับจดหมายคำขอร้องจาก Amunet ได้มาที่ Thebes เพื่อหาเครื่องรางและลบล้างคำสาปของบรรดาฟาโรห์ที่ถูกปลุกชีพให้จงได้ นับว่าเป็นการลุยเดี่ยวของ Bayek โดยไม่มีผู้ใดเอื้อมมือมาช่วย


     การจะช่วย Thebes ให้พ้นจากคำสาปนี้คือต้องหาเครื่องรางและโค่นฟาโรห์ทั้งหมดให้ได้ ซึ่งพวกเขาจะสุ่มออกมาเข่นฆ่าทั้งชาวเมือง โจร ทหาร สลับกันไปทั้ง 4 พระองค์ ความท้าทายที่สุดอย่างหนึ่ง คือการเอาชนะพวกเขาระหว่างการปรากฎตัวในโลกแห่งความจริงเพราะการปรากฎตัวแต่ละครั้งจะมีเวลาจำกัดด้วยจำนวนเหยื่อ หากเหยื่อในรอบนั้นตายหมดพวกเขาก็จะจากไป แต่หากกำจัดได้ก็จะได้รับรางวัลตอบแทน (ที่ไม่คุ้มสักเท่าไหร่...) และหากปราบแต่ละพระองค์ในโลกหลังความตายก็จะหายไปถาวร นอกจากนี้หลังการปราบฟาโรห์ในโลกหลังความตายครั้งแรกก็จะมีการเริ่มปรากฎตัวของทหารอนูบิสระดับหัวหน้าที่ตามล่า Bayek ในโลกแห่งความจริงด้วย


     การดำเนินเนื้อเรื่องใน The Curse of the Pharaohs จะยังคงเป็นเส้นตรงเช่นเดียวกับ The Hidden Ones และมีเรื่องราวของการหักหลัง(อีกแล้ว)สอดแทรกอยู่ใน Main Quests จึงรู้สึกว่าการหักมุมไม่ต่างจาก The Hidden Ones สักเท่าไหร่ แต่ด้านที่สื่อออกมาได้ดีและเน้นอารมณ์ครั้งนี้ไปตกกับ Side Quests ซะส่วนใหญ่ แต่ประเด็นของ Side Quests ไม่ค่อยจะสัมพันธ์กับ Main Quests เพราะ Side Quests จะเล่าเรื่องราวเกี่ยวกับ Bayek เป็นหลักหรือไม่ก็ตัวละครประกอบที่เกี่ยวข้องกับฟาโรห์ บางเควสอาจทำให้หลายคนที่ไม่ได้ติดตามเนื้อเรื่องหลักของเกมถึงกับงงได้



อีกอย่างที่อยากจะชมคือ คัทซีนในเกมสวยงามมาก ทำออกมาได้ค่อนข้างดีทีเดียว

     ในส่วนของระยะเวลาในการเล่น เนื้อเรื่องหลักของ DLC นี้จะอยู่ที่ประมาณ 11-12 ชั่วโมงเท่านั้นหากเก่งพอจะลุยม้วนเดียวจบ ถือว่าค่อนข้างสั้นอยู่ แต่ถ้าเคลียร์ทั้งหมดจะอยู่ที่ขั้นต่ำ 20 ชั่วโมง







ภาพรวมดินแดน Thebes ที่เป็นพื้นที่หลัก

     มาต่อกันด้วยดินแดนหลักของ The Curse of the Pharaohs จะเริ่มด้วย Thebes เป็นนครหลักที่ค่อนข้างกว้างพอสมควรเพราะเป็นเมืองหลักเมืองเดียวของ DLC นี้ นอกเหนือจากเมืองก็ยังมีความหลากหลายของภูมิประเทศ ทั้งหนองที่ปลูกบัวฟ้า ยอดเขาสูงระดับหนึ่ง ทะเลทรายก็มา แต่ละแห่งแม้จะไม่ใหญ่ แต่ก็มีความสวยงามแตกต่างกันไป

     และจุดที่เป็นหัวใจใน DLC นี้คือ Valley of the Kings หุบเขาอุโมงค์ศพที่ใหญ่ที่สุดซึ่งอุโมงค์ศพเหล่านี้เป็นที่พำนักสุดท้ายของร่างฟาโรห์ที่สวรรคตไปแล้ว การเดินทางมาที่นี่จะสามารถนำพาเราไปสู่ดินแดนหลังความตายซึ่งแบ่งออกมาเป็น 4 แผนที่ย่อยตามฟาโรห์เจ้าของพื้นที่ ได้แก่ AaruAtenHeb SedDuat แต่ละแผนที่มีเอกลักษณ์ที่ชัดเจนและสะท้อนความเป็นฟาโรห์หรือเป็นเรื่องของตำนานสถานที่นั้น มีความสวยงามด้านการออกแบบและความแฟนตาซีแปลกใหม่ที่อิงหลักฐานความเชื่อทางประวัติศาสตร์ผสมเข้ามาแบบลงตัว ไม่มากหรือไม่น้อยเกิน



Aaru


Aten


Heb Sed


Duat




      ดินแดนหลังความตายนอกเหนือจากเป็นที่อยู่ของฟาโรห์ ก็มีทั้งที่อยู่ของวิญญาณผู้ตาย นกวิญญาณ Ba ทหารอนูบิสที่รับใช้ฟาโรห์ในโลกนี้ รวมไปถึงแมงป่องยักษ์

     ในส่วนของทหารอนูบิสนั้นไม่ต่างจากทหารทั่วไปในโลกปกติแต่แมงป่องยักษ์ต่างออกไปนิดหน่อย พวกมันเดาทางง่ายแต่การโจมตีแต่ละอย่างสร้างความเสียหายค่อนข้างหนัก โจมตีได้ทั้งระยะประชิดและระยะไกล เป็นอีกศัตรูหลักที่จำต้องต่อกรเพื่อแลกวัตถุดิบพิเศษของ DLC นี้ในการอัพเกรดอุปกรณ์สวมใส่ทุกอย่างของ Bayek เพราะฉะนั้น เวลาส่วนใหญ่ที่นอกเหนือจากการสำรวจและทำภารกิจจะเป็นการดื่มด่ำกับบรรยากาศโลกหลังความตายพร้อมการฟาร์มแมงป่องยักษ์



     ในเรื่องการพัฒนาของตัวละครมีการพัฒนาขึ้นมากกว่าใน The Hidden Ones เล็กน้อย แต่การพัฒนานี้ต้องใช้การลงแรงลงเวลาไปมากกว่าในคราวก่อนอีกเนื่องด้วยวัตถุดิบพิเศษอย่าง Shards of a Star เป็นการเพิ่มอายุของ DLC นี้ขึ้นมาทางอ้อมเพราะการฟาร์มวัตถุดิบนี้เพราะจะหาได้จากหีบสมบัติและแมงป่องยักษ์จากโลกหลังความตายหรือจากการโค่นฟาโรห์ในโลกแห่งความเป็นจริง ซึ่งก็ต้องถือว่าเป็นไม้ตายก้นหีบของการยืดอายุคอนเทนต์เกมนั่นแหละ...

     พ่วงมากับสกิลใหม่ 6 สกิล ที่เป็นสกิลเพิ่มความสามารถสายธนู 4 สกิลแยกตามชนิดธนู แต่ที่เป็นไฮไลท์เลยน่าจะเป็นอีก 2 สกิลสำหรับระยะประชิดเพราะมันจำเป็น คือ Dash Boost กับ Overpower Fury ในส่วนของ Dash Boost ใครที่เล่นจับจังหวะหลบเก่ง ๆ น่าจะได้กำไรไม่น้อยเพราะมันเพิ่มความแรงของการโจมตีค่อนข้างเยอะ ส่วน Overpower Fury เหมาะกับช่วยยามฉุกเฉินเพราะลบสถานะผิดปกติพร้อมฟื้นเลือดได้ด้วย เป็นสกิลที่ใช้ง่ายและใช้บ่อยที่สุด การที่จะดึงความสามารถของสกิลมาให้ครบผู้เล่นจำเป็นต้องฝึกฝนการต่อสู้ให้เชี่ยวชาญโดยเฉพาะจังหวะการหลบและการใช้ Overpower เพื่อดึงมาใช้ประโยชน์สูงสุด

     แต่ถ้าจะให้พูดตรง ๆ ด้วยความที่เป็น DLC ใหญ่ คาดหวังจะให้มีสกิลอะไรที่ดูเป็นรูปเป็นร่างมากกว่านี้เหมือนกับที่ทำในภาคหลัก เพราะสิ่งที่ทำในภาคหลักคือ สกิลที่มีผลต่อการเพิ่มเกมเพลย์ขึ้นมาจริงจังในขณะที่สกิลที่เพิ่มของ The Curse of the Pharaohs เหมือนเป็นแค่บัฟเท่านั้น


     ถ้าจะให้พูดจริง ๆ The Curse of the Pharaohs นี้มีการพัฒนาที่ต้องการให้ผู้เล่นลงแรงลงเวลาให้แก่เกมมากขึ้น มากกว่าที่ทำไว้ใน The Hidden Ones แน่นอน มีการเพิ่มวัตถุดิบเพื่อให้ตามล่ามาอัพเกรด มีการท้าทายผู้เล่นด้วยคอนเทนต์หลักของเกมอย่างการโค่นฟาโรห์ในโลกแห่งความเป็นจริง แต่ก็ยังขาดเสน่ห์บางอย่างที่ภาคหลักได้ทำไว้อย่างสกิลที่ไม่ได้สร้างความแตกต่างของเกมเพลย์หรือเนื้อเรื่อง The Curse of the Pharaohs ที่ฉีกธีมต่างจากภาคหลักและ The Hidden Ones แล้วไม่ได้ให้อารมณ์ร่วมเท่าที่ควร ทำให้ DLC นี้ดูมีอะไรขาด ๆ เกิน ๆ ไปบ้าง แต่ภาพรวมก็ยังโอเค ไม่ได้แย่ แค่ต่ำกว่าที่คาดหวังไว้...


Pros
+ Side Quests ที่เกี่ยวข้องกับ Bayek เนื้อเรื่องค่อนข้างดี
+ การออกแบบโลกแห่งความเป็นจริงและโลกหลังความตายที่สวยงาม
+ ในที่สุดก็เป็น DLC ที่รู้จักยืดอายุคอนเทนต์ซะที แม้จะใช้ไม้ตายก้นหีบก็ตาม
+ การโค่นฟาโรห์ในโลกแห่งความเป็นจริงเป็นเรื่องท้าทายมาก
Cons
- ด้วยความที่ฉีกธีมจากภาคหลักและ The Hidden Ones ทำให้มีความเข้าถึงเนื้อเรื่องน้อยกว่า
- เป็น DLC ใหญ่ที่มีการพัฒนาของตัวละครน้อยกว่าที่คาดคิดไว้

ความคิดเห็น

บทความที่ได้รับความนิยม