[Overview] [Diablo III] Season 28 - Rites of Sanctuary

         Greetings, Nephalem! Crucifer เช่นเดิม ขอบคุณทุกท่านที่เข้ามาอ่านและติดตามในบล็อกเช่นเดิมครับ แม้ครั้งนี้สรุปเต็มจะล่าช้า แต่อย่างน้อยได้ทยอยปล่อยรายละเอียดของสรุปไปล่วงหน้าในเพจไปก่อนแล้ว และแน่นอนที่สุดคือในบล็อกนี้จะมีการเพิ่มรายละเอียดบางอย่างที่ไม่ได้พูดถึงในเพจเช่นเดิม 

        อย่างไรก็ตาม สำหรับซีซั่นนี้นับว่ามีผู้เล่นเยอะมากเนื่องด้วยกระแสของ Diablo IV กับมีรางวัลพิเศษจากการปลดธีมคอนเทนต์ของซีซั่นทั้งหมด ตลอดจน Quality of Life ที่ไม่มีซีซั่นไหนเทียบได้ จึงทำให้ซีซั่นนี้มีผู้เล่นจำนวนมากกลับมา มาดูกันว่ามีอะไรเปลี่ยนแปลงไปบ้าง


        ในแพทช์ 2.7.5 ของซีซั่นนี้ ด้านทักษะจะมีผลกับ 2 คลาสได้แก่ Monk กับ Witch Doctor

  • Combination Strike (Passive)
    • ทักษะสร้าง Spirit แต่ละท่าจะเพิ่มพลังโจมตี 100% แก่ทักษะสร้าง Spirit ท่าอื่น
  • Crippling Wave (Primary)
    • ทุกการโจมตีโดนครั้งที่สามจะทำให้ศัตรูในระยะ 11 yards งุนงง ลดความเร็วการเคลื่อนที่ 30% และลดความเร็วการโจมตี 20% เป็นเวลา 10 วินาที
    • Concussion: ศัตรูที่โดน Crippling Wave พลังโจมตีลดลง 20%
    • Breaking Wave: ศัตรูที่โดน Crippling Wave รับความเสียหายจากทุกการโจมตีเพิ่มขึ้น 10% เป็นเวลา 10 วินาที
  • Deadly Reach (Primary)
    • Foresight: ทุกการโจมตีโดนครั้งที่สามเพิ่มพลังโจมตีทั้งหมดของคุณ 15% เป็นเวลา 10 วินาที
  • Way of the Hundred Fists (Primary)
    • Assimilation: แต่ละครั้งที่มีศัตรูโดนการโจมตีครั้งที่สามเพิ่มพลังโจมตี 5% เป็นเวลา 10 วินาที

        สำหรับ Monk ถ้าใครดูรายละเอียดแพทช์มาก่อนคงพอจะเดาได้ ใช่ มันคือการปรับเพื่อให้ผู้เล่นสามารถเล่นเซ็ต Raiment of a Thousand Storms เพราะผู้เล่นสามารถต่อคอมโบ Primary Skills ได้ง่ายขึ้นกว่าเดิมเยอะเหตุเพราะการยืดเวลาการใช้งานทักษะนั่นเอง

  • Spirit Barrage (Action)
    • Manitou: อัญเชิญสางออกมาลอยอยู่เหนือคุณ ปลดปล่อยกระสุนวิญญาณใส่ศัตรูใกล้เคียง 14,000% ของพลังโจมตีอาวุธเป็นธาตุความเย็น เป็นระยะเวลา 20 วินาที

        ในส่วนของ Witch Doctor ไม่มีอะไรมากนอกจากปรับเพิ่มพลังโจมตีของทักษะ Spirit Barrage - Manitou เพื่อดันทุกสายที่ใช้ Spirit Barrage ให้กลับมาเป็นสายที่นิยมอีกครั้งหนึ่ง โดยเฉพาะเพื่อใช้ในการลงริฟท์อย่างรวดเร็วที่ถูกเน้นเป็นพิเศษ


        หัวใจหลักของ Diablo III นั่นคือเซ็ตไอเทม ซึ่งในแพทช์นี้เรียกว่าถูกปรับไปเยอะมาก ครั้งนี้ถูกปรับไปถึง 9 เซ็ตและหนึ่งในนั้นถูกออกแบบการใช้งานใหม่อย่าง Natalya's Vengeance แน่นอนว่ามีการเสริมไอเทมที่เกี่ยวพันกับทักษะที่จะใช้ร่วมด้วยเช่นกัน

        เซ็ตไอเทมที่ถูกปรับใหม่ได้แก่ Horde of the Ninety Savages ของ Barbarian, The Typhon's Veil ของ Wizard, Raiment of a Thousand Storms และ Patterns of Justice ของ Monk, The Shadow's Mantle และ Unhallowed Essence และ Gears of Dreadlands ของ Demon Hunter, Masquerade of the Burning Carnival ของ Necromancer สุดท้ายกับหนึ่งเดียวที่ถูกออกแบบใหม่หมดของแพทช์นี้ Natalya's Vengeance ของ Demon Hunter

        ขอเริ่มกันด้วยส่วนที่ปรับด้านพลังกันอย่างเดียวก่อน

[Horde of the Ninety Savages]

  • (6) ชิ้น
    • เพิ่มพลังโจมตี Frenzy 2,000% ต่อขั้นพลังที่สะสม
        เพิ่มพลังโจมตีมากขึ้น แต่ยังเป็นเซ็ตที่จัดว่าเล่นยากเหมือนเดิมเพราะปัญหาการเข้าถึงเป้าหมายและระยะเวลาก่อน Frenzy จะมีพลังสะสมมากพอเพื่อแสดงความคล่องตัว

[The Typhon's Veil]

  • (6) ชิ้น
    • เพิ่มพลังโจมตี Hydras 4,000% ต่อจำนวนหัว Hydra ที่ยังมีชีวิตอยู่

        กลับมาเป็นเซ็ตที่ชวนเล่นอีกครั้งเพราะพลังโจมตีเพิ่มขึ้นมาเท่าตัว ทำให้เล่นง่ายขึ้น แต่ยังไม่เชียร์ให้เล่นในระดับสูงเท่าไหร่ถ้า AI ของไฮดร้าแต่ละหัวยังเลือกเป้าหมายไม่ดีพอ

[Raiment of a Thousand Storms]

  • (4) ชิ้น
    • Dashing Strike จะใช้ 25 Spirit และคืนค่าชาร์จให้

        แตกต่างจากเซ็ตอื่นที่ไม่ได้เน้นเพิ่มพลังโจมตี แต่เน้นให้เล่นได้คล่องตัวขึ้นเพราะสามารถโจมตีด้วย Dashing Strike ได้บ่อยขึ้นเป็น 3 เท่า หรือจะใช้คู่กับเซ็ต Shenlong's Spirit เพื่อบริหารค่า Spirit ที่จะผลาญง่ายขึ้นก็ได้เช่นกัน

[Patterns of Justice]

  • (6) ชิ้น
    • เมื่อโจมตีโดนศัตรูด้วย Tempest Rush ขณะที่ Sweeping Wind ยังคงทำงานอยู่ จะเพิ่มขนาดขอบเขตของ Sweeping Wind และนอกจากนี้ยังเพิ่มพลังโจมตีทั้งหมดอีก 20,000%

        ลำพังเดิมก็เป็นเซ็ตที่ใช้งานง่ายอยู่แล้ว เพิ่มพลังโจมตียิ่งน่าใช้เข้าไปอีก แต่ติดที่ไอเทมสนับสนุนต้องครบถึงจะเป็นเซ็ตที่เล่นแล้วดีเพราะมันจำเป็นต้องคลุกวงใน

[The Shadow's Mantle]

  • (2) ชิ้น
    • ระหว่างถืออาวุธระยะประชิด พลังโจมตีของ Bolas, Chakram, Fan of Knives, และ Impale เพิ่มขึ้น 6,000%

        เอาจริง ๆ นี่น่าจะเป็นเซ็ตเดียวที่โดนปรับด้วยเหตุผลที่ไม่เกี่ยวข้องกับการใช้งานหลักของเซ็ตตน แต่เพราะมันไปเกี่ยวพันกับการใช้งาน Natalya's Vengeance ที่ออกแบบใหม่ (เดาว่าน่าจะมีคนใส่ 2 ชิ้นทำให้พลังโจมตีของ Natalya's Slayer พุ่งพรวดแบบไม่ลืมหูลืมตา) เลยโดนจับปรับแบบงง ๆ จากแค่ถืออาวุธระยะประชิดจะใช้ทักษะไหนก็ได้ กลายเป็นเซ็ตที่ผูกทักษะไว้ตายตัวเลย

[Unhallowed Essence] 

  • (6) ชิ้น
    • ทักษะสร้างพลังงาน, Multishot, และ Vengeance เพิ่มพลังโจมตี 1,700% ต่อทุกจำนวน Discipline ที่คุณมี

        เป็นเซ็ตที่ใช้งานง่ายอยู่แล้ว แต่พอมาเพิ่มพลังแบบไม่ลืมหูลืมตาแบบนี้ก็กลายเป็นเซ็ตแนะนำเลย

[Gears of Dreadlands]

  • (6) ชิ้น
    • เพิ่มพลังโจมตี Primary Skills 27,500%

        เซ็ตที่ใช้งานง่าย เล่นง่าย ได้เพิ่มพลังโจมตีมาเกือบเท่าตัว สายปั่นยิ้มแก้มแทบปริ

[Masquerade of the Burning Carnival]

  • (6) ชิ้น
    • เพิ่มพลังโจมตี Bone Spear 9,000% 
    • Simulacrums ได้รับโบนัสนี้เป็นสามเท่า

        Simulacrums พลังโจมตี 3 เท่ากลับมาแล้ว แม้จะไม่อลังการเท่ายุคทองของเซ็ตนี้ แต่แนะนำให้ใช้เพราะความเล่นง่ายนี่แหละ เสียแต่ว่าของต้องครบ ยิ่งเครื่องราง Haunted Visions นี่ขาดไม่ได้เลย

        มาถึงเซ็ตออกแบบใหม่เซ็ตเดียวของแพทช์นี้แล้ว นั่นคือ Natalya's Vengeance ของ Demon Hunter นั่นเอง โดยเปลี่ยนจากสาย Rain of Vengeance กลายเป็นสาย Traps อย่างสมบูรณ์

[Natalya's Vengeance]

  • (2) ชิ้น
    • Spike Trap สร้างความเสียหายเพิ่มขึ้น 100% แก่ศัตรูที่ติดกับดัก Caltrops
    • Spike Trap สามารถฟื้นชาร์จเพื่อใช้งานใหม่ทันที
    • ไม่จำเป็นต้องใช้พลังงาน
    • การระเบิดแต่ละครั้งฟื้น 2 Discipline
  • (4) ชิ้น
    • การระเบิดของ Spike Trap จะระเบิดใส่ศัตรูที่อยู่ใกล้ Caltrops ที่สุด
    • เมื่อวาง Spike Trap จะลดความเสียหายที่ได้รับ 75% ระยะเวลาของโบนัสนี้จะรวมตามจำนวนกับดักที่วางไว้
  • (6) ชิ้น
    • เพิ่มพลังโจมตี Spike Trap 10,000%
    • การระเบิดต่อเนื่องจากการจุดชนวนต่อเนื่องจะเพิ่มความเสียหายยิ่งกว่าเดิม 25% จากการระเบิดต่อเนื่องก่อนหน้าแต่ละครั้ง

        แน่นอนว่าแอบเล่นยากขึ้นพอสมควร หากไม่มีของสนับสนุนสายนี้เลยก็ไม่แนะนำเท่าไหร่ เพราะการต้องมากดระเบิดเองแล้วไม่ได้แรงมากนักนี่เหนื่อยแน่ ยังไงของก็ต้องครบ เพราะฉะนั้นไอเทมด้านล่างนี่จึงควรมีไว้ครอบครองหากคิดจะเล่น Natalya's Vengeance

  • Chanon Bolter (Legendary)
    • Spike Trap จะล่อลวงศัตรูมาเหยียบมัน ศัตรูจะถูกยั่วยุให้เข้ามาทุก 10 วินาที
    • เพิ่มพลังโจมตี Spike Trap 150-200%
  • The Demon's Demise (Legendary)
    • การระเบิด Spike Trap แต่ละครั้งจะสร้างความเสียหายอีกระลอกหลังผ่านไป 1 วินาที
    • เพิ่มพลังโจมตี Spike Trap 150-200%
  • Natalya's Slayer (Set)
    • เพิ่มพลังโจมตี Spike Trap 10-15%
  • Trag'Oul Coils (Legendary)
    • Spike Trap ได้รับเอฟเฟครูน Scatter
    • วางกับดักเร็วขึ้นเท่าตัว
    • เพิ่มพลังโจมตี Spike Trap 150-200%

        จบจากรายละเอียดทักษะและอุปกรณ์ต่าง ๆ แล้ว ในที่สุดก็จะเข้าสู่เรื่องที่ทุกคนสนใจจริง ๆ ซะที


        Primordial Ashes ฟีเจอร์ถาวรใหม่ที่ถูกเพิ่มเข้ามาในแพทช์นี้ ดูแต่ไกลก็รู้ว่าเป็นการต่อยอดมาจาก Season 27 - Light's Calling ที่หลักการแทบจะเหมือน Angelic Crucible และ Sanctified Items ทั้งข้อจำกัดและวิธีการได้มา เพียงแต่วิธีสร้างยุ่งยากขึ้นมานิดหน่อยและไม่มีความสามารถเพิ่มเติมให้แค่นั้น

  • ฟีเจอร์นี้ถูกเพิ่มเข้ามาใน 2.7.5 แบบถาวร มีทั้งในโหมดปกติและซีซัั่น
  • เมื่อย่อยสลาย Primal Items ทุกชิ้นจะได้รับ 55 Primordial Ashes ต่อชิ้น
  • สามารถนำไปเข้าสูตร Curiosity of Lorath Nahr ของ Kanai's Cube เพื่ออัพเกรด Legendary Item ให้กลายเป็น Primal Item
  • เช่นเดียวกับการหลอมใหม่ของสูตร Law of Kulle เมื่ออัพเกรดแล้วความสามารถทั่วไป (Property) ของไอเทมชิ้นนั้นจะสุ่มใหม่หมด
  • สีของ Primal Items ที่มาจากการอัพเกรดจะมีความต่างจาก Primal Items ปกติ ทั้งสีกรอบไอเทมและสีกรอบ Tooltip อย่างชัดเจน
  • Primal Items ที่มาจากการอัพเกรดจะสามารถสวมใส่ได้ทีละชิ้นเท่านั้น

        นั่นทำให้ผู้เล่นมีโอกาสหา Primal Item ชิ้นที่ดีที่สุดผ่านการใช้สูตรของ Kanai's Cube นั่นเอง นอกจากนี้ยังสามารถสังเกตความต่างด้วยสีไอคอนได้อีกด้วย

    [Original Primal]

  • กรอบ Tooltip สีแดงและจะเหลือส่วนที่เป็นกระดูกและกะโหลก Diablo เป็นสีขาวอมเหลือง
  • กรอบไอคอนจะเป็นสีแดงรอบ สีพื้นหลังไอคอนจะไม่เปลี่ยน

    [Upgraded Primal]

  • กรอบ Tooltip สีแดงเกือบทั้งหมดตลอดจนกะโหลก Diablo และจะเหลือส่วนกระดูกที่ออกเป็นสีเหลืองน้ำตาล
  • สีกรอบไอคอนจะยังคงสีเดิมตามเกรดไอเทมไว้ แต่สีพื้นหลังไอคอนเปลี่ยนเป็นสีแดงอมม่วงไม่ว่าไอเทมนั้นจะเป็นเกรดอะไรก็ตาม

        พวกเราจะได้ท่องเข้าไปในซากโบราณปริศนาแห่ง Festering Woods ท่ามกลางการขุดค้นสำรวจนั้น ชาวประชาแห่ง New Tristram ได้แห่กันเข้ามาและสะดุดข้ามแท่นบูชาที่มีกลิ่นไอของลางร้ายซึ่งถูกแกะสลักจากวัตถุโบราณที่ประดิษฐานเครื่องหมายลี้ลับไว้ เหล่าชาวประชาครั่นคร้ามต่อกลิ่นอันพิศวงจากเสาศิลา จึงเพียกหาความช่วยเหลือจากเนฟาเลมผู้กล้าเพื่อมาสำรวจถึงการค้นพบที่น่าขนลุกในครั้งนี้ซึ่งครั้งหนึ่งถูกทิ้งไว้ในกาลเวลา นั่นคือ Altar of Rites

        Season 28 ขอแนะนำสุดยอด Quality of Life ขั้นสุดตั้งแต่เกมซีรี่ย์นี้เคยมีมา ใช่ครับ ผมกำลังเขียนถึง Altar of Rites นี่แหละ แท่นบูชานี้จะมีผนึกซึ่งมีความสามารถทั้งเสริมพลังในการต่อสู้ตลอดจนอำนวยความสะดวกสบายในการออกล่าของเหล่าเนฟาเลมในระดับที่ว่าถ้าปลดผนึกครบหมด ผู้เล่นก็สนแค่เดินหน้าแล้วฆ่าศัตรูก็พอ ไม่ต้องทำอย่างอื่นแล้ว lol

        การปลดผนึกมีความหลากหลาย แม้มีอิสระจนในท้ายที่สุดปลดหมดได้ แต่จำเป็นต้องมีการวางแผนมาอย่างดีว่าความสามารถใดจำเป็นก่อน เหตุเพราะการปลดผนึกแต่ละครัั้งจะมีวัตถุดิบที่นำมาถวายเพื่อปลดผนึกเหล่านี้ ยิ่งปลดผนึกมากเท่าไหร่สิ่งที่นำมาถวายยิ่งสูงค่ามากขึ้นเท่านั้น

        จากนี้ไปคือคุณสมบัติพื้นฐานของ Altar of Rites ใน Season 28

  • การใช้งานและอัพเกรดของ Altar of Rites สงวนไว้ใช้ได้เฉพาะกับตัวละครของ Season 28 - Rites of Sanctuary เท่านั้น เมื่อจบซีซั่น Altar of Rites จะถูกลบหายไปและไม่ย้ายไป Non-Seasonal
  • การอัพเกรดของ Altar of Rites จะมีผลกับทุกตัวละครในซีซั่น แต่จะไม่ข้ามโหมด อย่างอัพเกรด Altar of Rites ใน Seasonal ครบ ก็จะได้รับผลหมดทุกตัวละครใน Seasonal แต่กับตัวละครของ Hardcore Seasonal จะไม่รับผลแต่อย่างใด ต้องไปแยกอัพเกรดเอง
  • Altar of Rites สามารถใช้งานได้ตั้งแต่เลเวล 1
  • Altar of Rites จะมี 26 ผนึก, 3 ความสามารถยา, และ 1 ผนึกพิเศษให้ปลดล็อค
  • แผนผังการปลดผนึกเพื่ออัพเกรด Altar of Rites จะมาในรูปแบบ Upgrade Tree อัพเกรดตามผังไป
  • การปลดผนึกอัพเกรดทุกขั้นของ Altar of Rites จะใช้วัตถุดิบแตกต่างกันในการสังเวยเพื่ออัพเกรด
  • วัตถุดิบที่ใช้สังเวยในการอัพเกรด Altar of Rites ขึ้นกับจำนวนอัพเกรดที่ปลดแล้ว

        นั่นคือทั้งหมดเบื้องต้นเกี่ยวกับ Altar of Rites หลังจากนี้จะเป็นรายละเอียดเจาะลึกลงไปว่ามีปลดผนึกอัพเกรดอะไรบ้าง และจำเป็นต้องมีวัตถุดิบอะไรมาเป็นเครื่องสังเวย

        ว่ากันด้วยแต่ละผนึกของ Altar of Rites มีเรียงอักษรกำกับข้างผนึกไว้




        และจากนี้ไปจะเป็นลำดับวัตถุดิบที่จำเป็นต้องใช้ในการสังเวยแก่ Altar of Rites




        แม้แท่นบูชาจะนำความสะดวกสบายในการล่ามาให้ แต่ที่สำคัญคือรางวัลจากการปลดทุกผนึกหมด นอกเหนือจาก Warning Seal ที่ทำให้ได้ Primal Item ชิ้นที่ 2 เวลาออกล่าแล้ว ยังได้ปีกสำหรับตกแต่งเฉพาะของซีซั่นนี้ Wings of Terror เป็นรางวัลอีกด้วย ซึ่งบอกเลยว่าปีกนี้เข้ากับธงชายของ Season 3 ที่มาในธีม The Prime Evil Diablo สุด ๆ เลยละ ไม่เชื่อก็ดูในรูป


        การล่าอาจจะยากลำบากสำหรับทุกท่านหน่อย โดยเฉพาะมือใหม่ที่ไม่คุ้นชินกับเกมนี้สักเท่าไหร่ แต่เชื่อเถอะว่าไม่ยากเกินไปแน่นอน (ข้าพเองก็ได้ Wings of Terror มาครบ 3 เซิฟเวอร์แล้วนะ!)



        มาต่อกันที่ของรางวัลกันดีกว่า ถ้าไม่มีก็ไม่ใช่ซีซั่นแล้ว แน่นอนว่ายังมี Haedrig's Gift ของตกแต่งเก่ากลับมาใหม่อย่าง Cosmetic Rewards ของ Season 16 หลังจากจบ 4 บทแรกของ Season Journey ที่หากใครสะสมยังไม่ครบก็จะครบในตอนนี้ รวมไปถึงรางวัลใหม่ซีซั่นนี้เมื่อจบ Guardian

        หลังจบ 4 บทแรกของ Season Journey คุณจะได้รับเซ็ตไอเทมประจำคลาสดังต่อไปนี้

  • Patterns of Justice (Monk)
  • Gears of Dreadlands (Demon Hunter)
  • Horde of the Ninety Savage (Barbarian)
  • The Typhon's Veil (Wizard)
  • Aegis of Valor (Crusader)
  • Mundunugu's Regalia (Witch Doctor)
  • Masquerade of the Burning Carnival (Necromancer)
        ใช่แล้ว ทั้งหมดเป็นเซ็ตใหม่ All-New 2020 Set จากแพทช์ 2.6.9 หรือ Season 21 นั่นเอง

        ส่วนรางวัลเก่าเล่าใหม่จาก Season 16 ยังคงเป็นชุดจำแลงเซ็ต Conqueror ที่แจกประจำ กรอบภาพประจำตัวและปีกตกแต่งเช่นเคย (แต่ซีซั่นหน้าคงต้องลุ้นละว่ารางวัลของ Guardian จาก Season 17 จะกลับมาด้วยรึเปล่า เพราะตอนนี้วนของเก่ามาครบรอบแล้ว)

  • รูปลักษณ์จำแลง Conqueror's Shako (ศีรษะ) และ Conqueror's Pauldrons (ไหล่) 
  • Call To Adventure Portrait Frame Set  หลังจากจบ Season Journey 4 บทแรก เป็นต้นไป
  • ปีกตกแต่ง Wings of Lempo หลังจากจบ Season Journey 4 บทแรก

        ส่วนรางวัลขั้นสูงสุดจากการจบระดับ Guardian ของ Season Journey จะมีทั้งหมด 2 อย่างนั่นคือ 

  • Primal Hunter Portrait Frame กรอบประจำตัวที่มาในธีมของ Primal Items ราวกับเป็นกรอบที่อัพเกรดมาจาก Season 3 ลาย The Prime Evil Diablo แม้ชื่อกรอบเหมือนจะชวนงงว่าสัมพันธ์อะไรกับกะโหลก Diablo แต่มีเหตุผลอยู่ เพราะมันคือสัญลักษณ์ที่อยู่บนสุดของ Primal Item Tooltip ไม่ว่าจะแบบดั้งเดิมหรืออัพเกรดมานั่นเอง
  • Taennin the Tiny Pet สัตว์เลี้ยงใหม่ที่มาในธีมมังกรออกแบบเหมือนมาจาก High Heavens ซึ่งเอาจริง ๆ น่าจะคล้าย Tyrael ที่สุดแล้ว ทั้งสีเกราะและสีปีก


        Season 28 มาแบบเบาลงบ้าง หลังจากปล่อยของอัดอั้นจนแทบตายกันไปในซีซั่นที่แล้ว ซีซั่นนี้จึงเบาลงมาพอสมควรและง่ายขึ้นสำหรับมือเก๋า แต่มือใหม่มีแอบโอดโอยกันบ้างแน่ถ้าเล่นไม่เป็น Speed Demon & Need For Speed ที่ต้องจบ Nephalem Rift ใน 2 นาทีซึ่งยากหน่อยหากลุยเดี่ยว Boss Mode & Worlds Apart ที่ต้องมีความรู้ในเรื่องแผนที่เพื่อจบทุกอย่างให้ทันใน 20 นาที Curses! & Stars Align ที่ปวดหัวกับการหา Cursed Chest ที่ใช่และหากลุยเดี่ยวโดยไม่ใช้สายที่เหมาะก็จะยากขึ้นไปอีก และ Years of War & Dynasty ที่ยังคงต้องสร้างตัวละครอีกคลาสเพื่อจบเซ็ตประจำคลาสเซ็ตที่ 6 ให้ได้ ยังดีที่มี On A Good Day & I Can't Stop ที่ปกติต้องทำเป็นทางผ่านอยู่แล้วมาคอยปลอบประโลม

  • Speed Demon (Seasonal) & Need For Speed (Hardcore Seasonal) 
    • พิชิต Nephalem Rift ณ เลเวลสูงสุดบนระดับความยาก Torment X หรือสูงกว่า ในเวลา 2 นาที (นับถึงปิดริฟท์)
  • On A Good Day (Seasonal) & I Can't Stop (Hardcore Seasonal) 
    • อัพเกรด Legendary Gems ให้ถึงระดับ 65 เป็นจำนวน 3 เม็ด
  • Boss Mode (Seasonal) & Worlds Apart (Hardcore Seasonal) 
    • กำจัดบอสที่กำหนดขณะเลเวลสูงสุด (เลเวลพื้นฐาน 70) บนระดับความยาก Torment X หรือสูงกว่า ในเวลา 20 นาทีนับตั้งแต่เริ่มเกมรอบนั้น
  • Curses! (Seasonal) & Stars Align (Hardcore Seasonal) 
    • กำจัดศัตรู 350 ตนหรือมากกว่าในอีเวนท์ Cursed Chest ขณะเลเวลสูงสุดบนระดับความยาก Torment X หรือสูงกว่า
  • Years of War (Seasonal) & Dynasty (Hardcore Seasonal)
    • พิชิต Greater Rift ระดับ 55 เดี่ยวด้วยความสามารถของเซ็ตที่กำหนดแบบโบนัสเต็มสมรรถนะ 6 เซ็ต


        ใน Season 28 - Rites of Sanctuary นี้จัดว่าเป็นซีซั่นที่เล่นใหญ่อลังการที่สุดเท่าที่เคยมีมาแล้ว และเพราะ Diablo IV ใกล้จะถึงเวลามาเต็มที (ข่าวล่าสุดได้ยินว่า Gone Gold ไปเรียบร้อย) ซีซั่นนี้จึงเหมาะให้ผุ้เล่นหน้าใหม่มาลองเล่นดูมาก เพราะในแง่ Combat Gameplay แล้วนั้น Diablo IV แทบจะคัดลอกจาก Diablo III มาเลย ดูแล้ว Team 3 ก็อยากใช้โอกาสนี้ในการส่งท้ายเต็มที่ด้วย (เพราะมีการประกาศแล้วว่า Season 29 จะเป็นซีซั่นที่มีธีมใหม่ซีซั่นสุดท้ายและจะไม่เล่นใหญ่เท่าซีซั่นนี้) นี่จึงเปรียบเสมือนเป็นซีซั่นส่งท้ายของ Diablo III ถึงความจริงมันจะไม่ท้ายที่สุดก็เถอะ

        ขอให้เต็มที่กับ Season 28 - Rites of Sanctuary แล้วค่อยมาเจอกันอีกทีใน Diablo III Season 29 ไม่ก็ Diablo IV ละกันครับ ขึ้นกับว่าอันไหนมาก่อนนะ...

ความคิดเห็น

บทความที่ได้รับความนิยม