[Overview] [Diablo IV] Before the SLAM


        Server Slam นี่คือป้ายสุดท้ายก่อน Diablo IV จะเปิดให้เล่นอย่างเป็นทางการ ทุกสิ่งที่ผู้เล่นจะได้สัมผัสเริ่มต้นจากที่นี่ เพราะฉะนั้นนี่คือจุดตัดสินว่าใครจะอยากเล่นเกมนี้ต่อไป

        Greetings, Nephalem! ขอต้อนรับเข้าสู่ Before the SLAM บทความรวมทุกสิ่งที่คุณต้องรู้เกี่ยวกับ Diablo IV Server Slam ที่จะมาถึงในสองสัปดาห์นี้ สิ่งที่คุณจะได้เจอคือเรื่องราวของ Act I: A Cold and Iron Faith และขีดจำกัดเลเวลสูงสุดถึง 20 เพื่อความพร้อมในช่วงสุดท้ายก่อนการเปิดจริงจะมาถึง แน่นอนว่ามีรางวัลสำหรับการเข้าร่วมทดสอบเพิ่มเติมนอกเหนือจากที่เคยมีมาในช่วงทดสอบ Beta ถ้าอยากรู้ทุกอย่างที่จำเป็นสำหรับ Server Slam ละก็ เชิญอ่านได้เลย!


        ว่ากันด้วยอย่างแรกเลยคือความเปลี่ยนแปลงหลังจากได้เสียงตอบรับใน Beta ทั้งสองรอบไปแล้วนำเสียงตอบรับมาขัดเกลา ในที่สุดก็ได้เป็นเวอร์ชั่น Gone Gold (หมายถึงเวอร์ชั่นที่พัฒนาสิ้นสุดแล้ว) ที่จะเปิดให้เล่นอย่างเป็นทางการในวันที่ 6 มิถุนายน 2023 (สำหรับ Early Access จะเป็นวันที่ 2 มิถุนายน 2023) แน่นอนว่ามันคือเวอร์ชั่นที่เราจะได้เล่นใน Server Slam เช่นกัน มาดูรายละเอียดคร่าว ๆ กันดีกว่า

        หลังจากนี้คือรายละเอียดการเปลี่ยนแปลงคร่าว ๆ ที่จะได้เล่น


    Dungeon Layouts
    มีการแก้แผนผังของดันเจี้ยนใหม่เพราะหลายดันเจี้ยนที่มีผังที่ส่วนหนึ่งตายตัวและเกิดปัญหาการต้องเดินย้อนไปย้อนมาหนักมาก (ที่โด่งดังที่สุดในกลุ่มนี้คือ Hoarfrost Demise) ดังนั้นจึงมีการแก้แผนผังดันเจี้ยนใน Fractured Peaks ให้สำรวจง่ายขึ้นและลดการเดินย้อนน้อยลง
  • Caldera Gate
  • Defiled Catacombs
  • Derelict Lodge
  • Forbidden City
  • Hoarfrost Demise
  • Immortal Emanation
  • Kor Dragan Barracks
  • Maulwood
  • Rimescar Caverns

    Dungeon Events
  • โอกาสเจออีเวนท์ในดันเจี้ยนเพิ่มขึ้นจาก 10% เป็น 60%

    Dungeon Gameplay
  • เพื่อลดอัตราการเดินย้อนกลับ เมื่อจำนวนศัตรูเริ่มเหลือน้อย พวกมันจะเป็นฝ่ายค้นหาผู้เล่นเองเพื่อให้จบภารกิจฆ่าศัตรูทั้งหมดเร็วขึ้น
  • เมื่อเก็บ Animus ได้สำเร็จ ผู้เล่นและมิตรที่อยู่ใกล้เคียงจะได้รับค่าพลังงานทักษะ 10 และลดระยะเวลาใช้ใหม่ของทักษะ 1 วินาที
  • ระยะเวลาในการร่าย Animus ใส่ลดจาก 3 วินาทีเป็น 0 วินาที
  • เวลาที่ใช้ในการช่วยเหลือคนลดจาก 3 วินาทีเป็น 1.5 วินาที
  • ทุกภารกิจช่วยเหลือคนจะตกขวดยาทุกครั้งที่สำเร็จ
  • เมื่อแบก Ancient's Statue, Bloodstone, Mechanical Box, หรือ Stone Carving จะได้รับโบนัส Momentum เพิ่มความเร็วเคลื่อนที่ 25% แก่ผู้เล่นและมิตรที่อยู่ใกล้เคียง
  • ระยะเวลาในการวางของบนแท่นลดจาก 2 วินาทีเป็น 0 วินาที
  • เมื่อนำของกลับไปวางบนแท่นได้สำเร็จจะฟื้นพลังชีวิต พลังงานทักษะ ขวดยา และระยะเวลาใช้ใหม่ของทักษะจนเต็มแก่ผู้เล่นทุกคนที่อยู่ใกล้เคียง
  • เมื่อเปิดประตูจะมีสัญลักษณ์แจ้งบนแผนที่เล็ก
  • ภารกิจเกี่ยวกับสิ่งก่อสร้างจะมีกลไกการต่อสู้ที่ผู้เล่นต้องเอาชนะให้ได้


    • General
  • เอฟเฟคมึนงง (Stun) และแช่แข็ง (Freeze) สามารถใช้กับ Elite ได้สองครั้งก่อนที่จะกลายเป็น Unstoppable
  • มีการตรวจสอบทักษะของแต่ละคลาสเพื่อให้แน่ใจว่าทุกคลาสจะมีทักษะที่ถอดถอนเอฟเฟคการควบคุมตัวละครบกพร่อง (Control Impairing)
  • ความสามารถของ Legendary Powers หลายอย่างมีการอัพเดตความสามารถ


    • Sorcerer
  • พลังโจมตีของ Charged Bolt เพิ่มขึ้นและ Mana ที่ใช้ในการร่ายลดลง
  • พลังโจมตีของ Chain Lightning ลดลงและประสิทธิภาพลดลงไปอีกเมื่อต้องโจมตีบอส
  • ลดระยะเวลาใช้ใหม่ของโบนัสของเสริมแกร่งทักษะ Incinerate
  • Firewalls สามารถเกิดได้จากด้านใต้ศัตรูบ่อยขึ้นเมื่อใช้โบนัสของเสริมแกร่งทักษะ
  • เพิ่มโอกาสเกิด Lucky Hit ของเสริมแกร่งทักษะ Meteor


    • Barbarian
  • เพิ่มความสามารถติดตัว ลดความเสียหายที่ได้รับ 10% สำหรับคลาส Barbarian แต่ชดเชยด้วยการลดความสามารถลดความเสียหายที่ได้รับในทักษะติดตัวจาก Skill Tree บางทักษะ
  • ทักษะ Whirlwind เพิ่มพลังโจมตีและใช้พลังงาน Fury มากขึ้น
  • เสริมแกร่งทักษะ Double Swing คืนค่า Fury เต็มจำนวนเมื่อใช้กับศัตรูที่ติดสถานะมึนงงหรือล้มลง


    • Druid
  • ทักษะ Companion เพิ่มพลังโจมตีขึ้นอย่างมาก
  • ทักษะ Ultimate ทั้งหมดมีระยะเวลาใช้ใหม่ลดลง
  • ปรับปรุงการใช้งานของทักษะ Maul และ Pulverize
  • เมื่อใช้ทักษะที่ไม่ใช้การจำแลงร่างจะแปลงร่างกลับเป็นร่างมนุษย์


    • Rogue
  • อัพเกรดของกลุ่มทักษะ Subterfuge มีค่าโบนัสต่าง ๆ เพิ่มขึ้น
  • กลุ่มทักษะติดตัว Multiple มีค่าโบนัสต่าง ๆ เพิ่มขึ้น
  • ทุกทักษะที่เป็น Imbuement มีค่าลดระยะเวลาใช้ใหม่มากขึ้น


    • Necromancer
  • สมุนที่อัญเชิญขึ้นมาจะตายบ่อยขึ้น ทำให้ผู้เล่นจำเป็นต้องใช้ศพบ่อยขึ้น
  • หลากหลายโบนัสใน Book of the Dead มีค่าความสามารถเพิ่มมากขึ้น
  • ลดพลังโจมตีของทักษะ Corpse Explosion
  • ค่าความสว่างของ Skeleton Warriors และ Skeleton Mages ลดลง


  • แก้ปัญหา Built-in Screen Reader ไม่สามารถอ่าน Key Prompts, รายละเอียดการปรับแต่งเกม, และอักษรอื่น ๆ ของ UI
  • แก้ปัญหาที่คำสั่งการกระทำต่าง ๆ ไม่สามารถผูกกับ Mouse Wheel 
  • แก้ปัญหาที่ Evade ไม่สามารถผูกกับแกนอนาล็อกขวาของ Controller
  • ช่องแชทย้ายไปอยู่ด้านซ้ายของหน้าจอเมื่อปรับ Action Bar ให้มาอยู่กลางจอ
  • ค่าพลังของตัวละครจะเป็นค่าเริ่มต้นที่แสดงเมื่อผู้เล่นไปกดปุ่ม Materials & Stats ในหน้า Inventory
  • Move และ Interact สามารถผูกกับปุ่มเดียวกัน ขณะที่ Primary Attack สามารถผูกกับปุ่มอื่นได้
  • ฟอนต์ Sans Serif ที่เคยใช้ในเกมถูกเปลี่ยนแทนที่ด้วยฟอนท์ Serif ใหม่แล้ว


  • แก้ปัญหาหลากหลายอย่างที่ทำให้บอสอย่าง The Butcher ไม่สามารถตอบสนองได้
  • The Butcher ถูกปรับใหม่ตามความยากและจะท้าทายมากขึ้นใน Nightmare และ Torment
  • บอสหลายตัวอย่าง T'chort, Malnok, Vhenard, และบอสอื่น ๆ ถูกปรับใหม่ เมื่อตัวละครสายระยะประชิดเข้าต่อสู้จะส่งผลให้มีรูปแบบการโจมตีและกลไลการต่อสู้แตกต่างไป
  • แก้ปัญหา Vampire Brutes ใช้เสริมแกร่งทักษะ Shadow เพื่อร่าย Impale ต่อเนื่อง


  • เพิ่มโอกาสเจอ Dungeon Event ใน Cellars
  • Cellars จะให้รางวัลเป็นหีบสมบัติเมื่อทำการเคลียร์จนสมบูรณ์
  • แก้ปัญหา Cellars ทำเครื่องหมายจบสมบูรณ์ก่อนเคลียร์หมดจริง
  • แก้ปัญหาการันตี Elite ที่ควรเจอหายไปจาก Cellars


  • แก้ปัญหาที่ผู้เล่นสามารถเพิ่มความเร็วในการโจมตีด้วยการ Move-Cancelling Attack
  • แก้ปัญหาที่ตัวละครไม่อยู่ในสถานะ Immune และ Untargetable หลังโหลดเข้าสู่พื้นที่ใหม่
  • ปุ่ม Reset Dungeon ถูกนำออก เปลี่ยนไปใช้การรอหลังจบดันเจี้ยนเพื่อรีเซ็ตแทน
  • แก้ปัญหาที่ทำให้ Gale Valley และ Serac Rapture มีศัตรูน้อยกว่าที่ควรจนกว่าภารกิจเส้นเรื่องหลักในอาณาเขตนั้นจะจบสมบูรณ์

        ทั้งหมดคือรายละเอียดที่เปลี่ยนแปลงไปจาก Beta และทุกคนจะได้สัมผัสครั้งแรกใน Server Slam ทุกคนคงต้องจับตาดูกันต่อไปว่าการปรับแก้ครั้งนี้จะส่งผลกับเกมมากแค่ไหน

        สำหรับการทดสอบ Server Slam นอกจากรายละเอียดที่แก้ไขข้างต้นแล้ว อย่างอื่นแทบจะเหมือนเดิมหมด เว้นเสียแต่ตัวละครใน Server Slam จะมีเลเวลสูงสุดแค่ 20 เท่านั้น และไม่สามารถนำตัวละครจาก Beta มาเล่นในการทดสอบนี้ได้
  • สามารถเล่น Act I: A Cold and Iron Faith และพื้นที่ Fractured Peaks
  • ตัวละครสามารถมีเลเวลสูงสุดได้ถึง 20
  • ไม่สามารถนำตัวละครจาก Beta มาเล่นได้

        ในด้านของรางวัล ใครที่เคยทดสอบ Beta มาแล้วแต่ยังไม่ถึงเลเวล 20 นี่คือโอกาสอีกครั้งของคุณ ทำให้ได้ใน Server Slam เพื่อคว้ารางวัลมาซะ ส่วนใครที่ทำไปจบเรียบร้อยแล้วใน Beta และไม่คิดจะเล่นอีก ช้าก่อน! เพราะมีของรางวัลเฉพาะของ Server Slam มาอีกชิ้นด้วย!


        หากเป้าหมายของทีมพัฒนาคือการเรียกผู้เล่นให้มาถล่มเซิฟเวอร์มากที่สุดเท่าที่จะเป็นไปได้ (ด้วยการทำให้แฟนเกมรอเหงือกแห้งไปเดือนเต็มงี้) ก็ต้องมีรางวัลมาล่อตาล่อใจกันเป็นธรรมดาอยู่แล้ว

        Cry of Ashava รางวัลจากการพิชิตสำหรับสวมใส่กับสัตว์พาหนะนี้จะได้เฉพาะกับผู้ที่ใช้ตัวละครเลเวล 20 ในการพิชิต Ashava, the Pestilent ในช่วงทดสอบ Server Slam นี้เท่านั้น! เพราะฉะนั้นใครต้องการรางวัลแบบเต็มเม็ดเต็มหน่วย ยังไงก็ต้องโค่นให้ได้อยู่ดี 

        ที่สำคัญครั้งนี้มันจะยากกว่าเก่ามาก เพราะขีดจำกัดเลเวลสูงสุดในการทดสอบรอบนี้แค่ 20 ทำให้มีผลกับอุปกรณ์ที่สวมใส่รวมทั้งทักษะที่ผู้เล่นจะใช้ ยกตัวอย่างที่เห็นได้ชัดคือ Necromancer ที่คราวนี้จะเจ็บสักหน่อยเพราะใช้โกเลมไม่ได้ แถม Skeletons ตายง่ายกว่าเดิมอีก ไหนจะขีดจำกัดเลเวลอีก เพราะงั้นการโค่น Ashava ครั้งนี้ไม่ง่ายอย่างที่คิดแน่นอน

        ใครอยากไปซัดเพื่อเอารางวัลหลังเลเวล 20 นี่คือเวลาที่ผู้เล่นจะได้ไปซัดมันให้หมอบ โดยจะเริ่มตั้งแต่วันเสาร์ที่ 13 พฤษภาคม 2023 เวลา 23:00 น. และจะเกิดหลังจากนั้นทุก 3 ชั่วโมงจนถึงวันที่ 14 พฤษภาคม 2023 เวลา 23:00 น. เท่ากับมีเวลา 24 ชั่วโมงในการโค่นมัน อย่าพลาดซะละ


        สิ่งสุดท้ายที่ทุกคนต้องรู้คือ ความต้องการของเครื่อง PC เพื่อการเล่น Diablo IV ซึ่งนี่ไม่ใช่แค่ Server Slam เท่านั้น แต่เป็นความต้องการของเครื่องในวันเปิดจริงด้วย (a.k.a. Server Slam ใช้แพทช์ตัวเดียวกับวันเปิดเกมอย่างเป็นทางการ)



        ส่วนของวัน-เวลาเตรียมการทดสอบ Server Slam ทั้งวัน-เวลาดาวน์โหลดล่วงหน้าและเปิดทดสอบตามนี้ ขอให้โชคดีกับการโค่น Ashava, the Pestilent แล้วเจอกันใน Sanctuary

ความคิดเห็น

บทความที่ได้รับความนิยม