[Overview] [Diablo III] Season 30 - The Lords of Hell

 

    
        Greetings, Nephalem! Crucifer กลับมาแล้ว! ก่อนอื่นขอบคุณทุกท่านที่ยังคงติดตามกันเสมอมาแม้ว่าเราจะหายไปเสียนาน ถึงแม้ว่าเกมจะเข้าสู่ระยะ Maintenance โดยสมบูรณ์แล้วแต่ก็ยังมีการปรับสมดุลรวมไปถึง Quality of Life ต่าง ๆ เกิดขึ้นอยู่เสมอ เพราะฉะนั้นถึงจะไม่มีรายละเอียดอะไรมากนัก (?) แต่ในอนาคตยังคงสรุปรายละเอียดของ Diablo III เหมือนเดิมแน่นอน

        สิ่งที่ได้เห็นในแพทช์นี้ นอกจากการปรับสมดุลก็จะเป็นการนำคอนเทนต์ซีซั่นกลับมาให้เล่นกันเป็นครั้งแรก! ซึ่งมีทั้งธีมของซีซั่นและคอนเทนต์ซีซั่นแบบถาวร จะมีอะไรบ้าง มาดูกัน


        แพทช์นี้ถึงไม่มีการออกแบบความสามารถใหม่แต่มาพร้อมกับการปรับสมดุลเป็นว่าเล่นกันเลยทีเดียว มีทั้งที่เพิ่มกับลดพลังลงมา (ซึ่งอย่างหลังเยอะกว่าอย่างเห็นได้ชัด) ตลอดจนบางชิ้นและบางเซ็ตปรับให้ใช้งานได้ง่ายขึ้น จะมีชิ้นไหนหรือเซ็ตไหนบ้างมาดูกัน

[Might of the Earth]

  • (6) ชิ้น
    • เพิ่มพลังโจมตีของ Earthquake, Avalanche, Leap, Ground Stomp, Ancient Spear, และ Seismic Slam 37,500% (เพิ่มจากเดิม 20,000)

[The Legacy of Raekor]

  • (6) ชิ้น
    • เมื่อโจมตีโดนศัตรูด้วย Furious Charge หรือ Weapon Throw จะเพิ่มพลังโจมตีของ Ancient Spear ครั้งต่อไป 2,500% (ลดจากเดิม 5,500%) สามารถสะสมพลังโจมตีได้
        Barbarian ในแพทช์นี้ปรับไม่เยอะ ถึง The Legacy of Raekor จะถูกลด แต่ Might of the Earth เพิ่มแบบตั้งใจเชิดชูออกนอกหน้าอย่างเห็นได้ชัด

[Zunimassa's Haunt]

  • (6) ชิ้น
    • ศัตรูที่โดนโจมตีด้วยทักษะที่ใช้มานารับความเสียหายเพิ่มขึ้น 13,000% (ลดจากเดิม 15,000%) จากสัตว์เลี้ยงของคุณ เป็นเวลา 8 วินาที

[Raiment of the Jade Harvester]

  • (6) ชิ้น
    • เมื่อร่าย Soul Harvest จะสร้างความเสียหายแก่ศัตรูที่ติดสถานะรับความเสียหายต่อเนื่องเทียบเท่า 26,000 วินาที (เพิ่มจากเดิมเทียบเท่า 10,000 วินาที) ของความเสียหายที่เหลืออยู่

[Helltooth Harness]

  • (6) ชิ้น
    • หลังจากร่าย Wall of Death เพิ่มพลังโจมตี 37,500% (เพิ่มจากเดิม 17,500%) แก่ทักษะ Primary, Acid Cloud, Firebats, Zombie Charger, Zombie Dogs, Gargantuan, Grasp of the Dead, Piranhas, และ Wall of Death เป็นเวลา 15 วินาที

[Spirit of Arachyr]

  • (6) ชิ้น
    • พลังโจมตีของทักษะที่ใช้สิ่งมีชีวิต ได้แก่ Corpse Spiders, Plague of Toads, Firebats, Locust Swarm, Hex และ Piranhas เพิ่มขึ้น 11,500% (ลดจากเดิม 25,000%)

[Mundunugu's Regalia]

  • (6) ชิ้น
    • Spirit Barrage เพิ่มพลังโจมตี 17,500% (ลดจากเดิม 20,000%) เพิ่มเติมด้วย % เทียบเท่า 5 เท่าของอัตราการฟื้นมานาต่อวินาที
        Witch Doctor มีทั้งโดนลดจากเดิมอย่าง Zunimassa's Haunt กับ Mundunugu's Regalia นิดหน่อยกับเพิ่มอย่างมหาศาลอย่าง Raiment of the Jade Harvester และ Helltooth Harness จะมี Spirit of Arachyr ที่โดนปรับลดแบบหนักข้อมากจนรู้สึกความน่าเล่นลดลงเยอะ

[Tal Rasha's Elements]

  • (6) ชิ้น
    • เมื่อโจมตี พลังโจมตีตะเพิ่มขึ้น 1,000% (ลดจากเดิม 2,000%) เป็นเวลา 8 วินาที การโจมตีด้วย Arcane, Cold, Fire และ Lightning จะสะสมพลังโจมตีถึง 4 ขั้น เมื่อใช้ธาตุที่ต่างกันจะยืดระยะเวลาเพิ่มพลังโจมตี 2 วินาที สูงสุดถึง 8 วินาที

[Delsere's Magnum Opus]

  • (6) ชิ้น
    • เพิ่มพลังโจมตีของทักษะ Arcane Orb, Energy Twister, Magic Missile, Shock Pulse, Spectral Blade, Electrocute หรือ Arcane Torrent 20,000% (เพิ่มจากเดิม 12,500%) แก่ศัตรูที่ได้รับเอฟเฟคของ Slow Time หรือหลังออกอาณาเขตทักษะ 5 วินาที

  • The Twisted Sword (Legendary)
    • Energy Twister พลังโจมตีเพิ่มขึ้น 125-150% ต่อแต่ละ Energy Twister ที่ร่ายออกมา สูงสุดถึง 3 ลูก (ลดจากเดิมสูงสุดถึง 5 ลูก)
  • The Smoldering Core (Legendary)
    • Meteor พลังโจมตีเพิ่มขึ้น 40-50% และเพิ่มตามจำนวนครั้งที่โดนเป้าหมายเดิมต่อเนื่อง สะสมสูงสุดถึง 3 ขั้น (ลดจากเดิมสะสมสูงสุดถึง 10 ขั้น)
        Wizard หลังจากเมต้า Tal Rasha's Elements ลอยตัวมานานก็โดนจนได้ แถมหนักด้วยเพราะโดนลดทั้งความสามารถเซ็ตและ The Smoldering Core! และแพทช์นี้เลือกดัน Delsere's Magnum Opus แทนซึ่งเป็นเซ็ตที่เล่นง่ายกว่า แต่ลดพลังโจมตีของ The Twisted Sword ด้วยนะ

[Raiment of A Thousand Storms]

  • (6) ชิ้น
    • Dashing Strike เพิ่มพลังโจมตีทักษะสร้าง Spirit 14,000% (เพิ่มจากเดิม 6,000%) เป็นเวลา 6 วินาที

[Uliana's Stratagem]

  • (6) ชิ้น
    • เพิ่มพลังโจมตีของ Exploding Palm ของคุณ 12,500% (เพิ่มจากเดิม 9,000%)

  • Kyoshiro's Blade (Legendary)
    • เมื่อจุดกระทบแรกของ Wave of Light (จุดระฆังตก) โจมตีโดนศัตรู 5 ตนหรือต่ำกว่า (เพิ่มจากเดิม 3 ตนหรือต่ำกว่า) พลังโจมตีเพิ่มขึ้น 200-250%
        Monk นี่คือปรับดีขึ้นทางเดียวเลย โดยทั้งสองเซ็ตปรับพลังโจมตีเพิ่มขึ้นแม้จะไม่มากก็เถอะ ส่วน Kyoshiro's Blade คือใช้งานง่ายขึ้นเพราะเพิ่มขีดจำกัดเงื่อนไขความสามารถ 

[The Shadow's Mantle]

  • (6) ชิ้น
    • เพิ่มพลังโจมตี Impale 120,000% (เพิ่มจากเดิม 75,000%) ของพลังโจมตีอาวุธแก่ศัตรูที่โดนโจมตีตนแรก ศัตรูที่โดนโจมตีถัดจากนั้นจะรับความเสียหาย 40,000% (เพิ่มจากเดิม 25,000%) ของพลังโจมตีอาวุธ

[Embodiment of the Marauder]

  • (6) ชิ้น
    • ทักษะ Primary, Elemental Arrow, Chakram, Impale, Multishot, Cluster Arrow, Companions, Vengeance, และ Sentries ของคุณเพิ่มพลังโจมตี 9,500% (ลดจากเดิม 12,000%) ต่อทุก Sentry ที่ทำงานอยู่
        Demon Hunter อีกหนึ่งเมต้าที่ลอยค้างฟ้าอย่าง Embodiment of the Marauder ที่สุดแล้วถูกปรับลดแบบจริงจังจนได้ คราวนี้กลายเป็น The Shadow's Mantle เฉิดฉายแทน

[Roland's Legacy]

  • (4) ชิ้น
    • เพิ่มพลังโจมตีของ Shield Bash และ Sweep Attack 40,000% (เพิ่มจากเดิม 17,500%)

[Aegis of Valor]

  • (6) ชิ้น
    • เพิ่มพลังโจมตี Fist of the Heavens และ Heaven's Fury 15,000% (ลดจากเดิม 20,000%)

  • Akkhan's Manacles (Legendary)
    • โบนัสจะยังทำงานอยู่และลดทีละ 50% ต่อเป้าหมายที่ชิ่ง ใช้ได้กับรูนที่ไม่ใช่ Shattering Throw (เพิ่มความสามารถนี้เข้ามา)
  • Faithful Memory (Legendary)
    • สะสมพลังโจมตีเพิ่มขึ้นได้ 10 ขั้น (เปลี่ยนให้พลังโจมตีที่เพิ่มขึ้นสามารถสะสมได้ ไม่รีเซ็ตเมื่อใช้งานใหม่อีกครั้งแล้ว)
        Crusader ปรับในส่วนของเซ็ตเล็กน้อย แน่นอนว่าเมต้าอย่าง Aegis of Valor โดนจับลด แต่ Roland's Legacy ได้กลับมาอีกครั้ง และการปรับความสามารถไอเทมอื่นถึง 4 ชิ้น

[Trag'Oul's Avatar]

  • (6) ชิ้น
    • ทักษะที่ใช้พลังชีวิตเพิ่มพลังโจมตี 6,250% (ลดจากเดิม 10,000%)

[Grace of Inarius]

  • (6) ชิ้น
    • Bone Armor สามารถสร้างพายุกระดูกสร้างความเสียหายแก่ศัตรูใกล้เคียง 1,000% ของพลังโจมตีอาวุธ และเพิ่มความเสียหายที่ศัตรูได้รับจาก Necromancer ทุกทาง 19,000% (เพิ่มจากเดิม 10,000%)

[Pestilence Master's Shroud]

  • (4) ชิ้น
    • ศัตรูแต่ละตนที่ถูกโจมตีด้วย Bone Spear, Corpse Lance, Corpse Explosion จะลดความเสียหายที่ได้รับ 3% ลดสูงสุดได้ถึง 75% เป็นเวลา 15 วินาที (แก้ไขใหม่)
  • (6) ชิ้น
    • ศพแต่ละร่างที่ถูกใช้จะทำให้ได้รับชาร์จสำหรับ Empowered Bone Spear ซึ่งเพิ่มพลังโจมตีให้แก่การร่าย Bone Spear ครั้งต่อไปของคุณ 6,000% (เพิ่มจากเดิม 3,300%)
    • เพิ่มพลังโจมตี Corpse Lance และ Corpse Explosion 6,000% (เพิ่มจากเดิม 3,300%)

[Masquerade of the Burning Carnival]

  • (6) ชิ้น
    • Bone Spear ที่ร่ายโดยคุณและ Simulacrums เพิ่มพลังโจมตี 5,500% (ลดจากเดิม 9,000%) 

  • Bloodtide Blade (Legendary)
    • Death Nova พลังโจมตีเพิ่มขึ้น 300-400% ต่อศัตรูทุกตนที่อยู่ใน 25 yards สูงสุดถึง 10 ตน (ลดจากเดิมสูงสุดถึง 25 ตน)
  • Grasps of Essence (Legendary)
    • เมื่อศพระเบิดสร้างความเสียหายศัตรูอย่างน้อย 1 ตน Corpse Explosion พลังโจมตีเพิ่มขึ้น 150-200% เป็นเวลา 6 วินาที สะสมได้สูงสุดถึง 4 ขั้น (ลดจากเดิมสะสมได้สูงสุดถึง 5 ขั้น)
  • Corpsewhisper Pauldrons (Legendary)
    • เมื่อคุณใช้ศพ Corpse Lance พลังโจมตีเพิ่มขึ้น 50-75% (เพิ่มจากเดิม 20-30%) เป็นเวลา 3 วินาที สะสมได้สูงสุดถึง 20 ขั้น
        Necromancer ลดเมต้าจนเรียกว่าเสียหลักเลย แล้วไปเพิ่มเซ็ตที่ไม่ค่อยได้ใช้งานอย่างชัดเจน แต่ถึงอย่างนั้นก็ไม่ได้ดูจะมากมายอะไรเป็นพิเศษ และไอเทมบางชิ้นถูกปรับลดเยอะมาก 

        จบเรื่องอุปกรณ์ที่เปลี่ยนไปละ มาด้วยเรื่องระบบต่าง ๆ กันสักนิด



        ซีซั่นนี้นอกจากการเพิ่มเติมระบบซีซั่นแล้วยังมีการอัพเดตอื่น ๆ ที่เกี่ยวข้องกับ Quality of Life ที่ใช้เกี่ยวพันกับระบบซีซั่นแต่ก็ส่งผลถึงโหมดปกติด้วยเช่นกัน
  • อัตราการตก Gibbering Gemstone จาก Chilltara เพิ่มขึ้น 20% ทำให้สร้าง Staff of Herding ง่ายขึ้นมาก (และมันจำเป็นสำหรับการอัพเกรด Altar of Rites ในทุกซีซั่น)
  • Whisper of Atonement สามารถย่อยสลายเป็น Forgotten Souls 1-3 ชิ้น ลดการใช้พื้นที่ในช่องเก็บของไปได้พอสมควรโดยเฉพาะชิ้นที่ไม่ถึง Rank 125
  • โอกาสพบ Orek's Dream เพิ่มขึ้นจาก 1% เป็น 4% โอกาสได้ริฟท์สำหรับไต่ลำดับก็ง่ายขึ้นด้วย
  • Gelatinous Sire จะไม่เกิดจาก Goblin Shrine ใน Echoing Nightmares อีก


        ซีซั่นนี้จัดเป็นซีซั่นแรกที่ใส่ Seasonal Exclusive แบบถาวร นั่นหมายความว่าจะพบคอนเทนต์เหล่านี้ได้ในทุกซีซั่นนับจากนี้เป็นต้นไป แน่นอนว่าคอนเทนต์เหล่านี้เป็น Fans Favorites ที่ถูกโหวตมาให้ใส่เพราะมันเพิ่มพลังของตัวละคร แต่เหนืออื่นใดคือช่วยเหลือ Quality of Life แบบสุดโต่งเลย 

        สำหรับ Seasonal Exclusive ที่เพิ่มมาในซีซั่นนี้คือ Altar of Rites ของ Season 28 - Rites of Sanctuary และ Diabolical Fissures ของ Season 29 - Visions of Enmity


        สำหรับรายละเอียดที่เปลี่ยนแปลง ของ Diabolical Fissures นี่คือไม่เปลี่ยนเลย ใน Season 29 เป็นอย่างไรก็มาอย่างนั้นเลย สามารถอ่านรายละเอียดได้ที่นี่ Visions of Enmity ส่วน Altar of Rites มีการปรับในส่วนของพลังที่เพิ่มให้กับตัวละคร แต่ Quality of Life เป็นอย่างไรก็เป็นอย่างนั้น รายละเอียดที่โดนปรับจะอยู่ในรูปด้านล่าง ส่วนรายละเอียดของที่ใช้ในการปลดผนึกสามารถอ่านรายละเอียดได้ที่นี่ Rites of Sanctuary





        ยังไม่แน่ใจว่าในอนาคตจะมีธีมที่มาเป็นคอนเทนต์ Seasonal Exclusive ถาวรเพิ่มเติมอีกไหม ถ้ามีก็จะทำ Overview เพิ่มเติมในอนาคตอย่างแน่นอน (แต่เท่าที่มีตอนนี้ก็ดีสุด ๆ แล้วละ)

        เมื่อคราว Black Soulstone ถูกทำลาย เศษเสี้ยวของศิลาซึ่งผนึกจ้าวอสูรทั้งหลายไว้ภายในยังคงดำรงอยู่ใน Sanctuary เศษเสี้ยววิญญาณเหล่านี้ครอบครองพลังอันยิ่งใหญ่-พลังซึ่งครั้งหนึ่งเป็นของเหล่า Prime Evils และ Lesser Evils เนฟาเลมจอมเจ้าเล่ห์ผู้ออกควานหาและถือครองศิลาวิญญาณจงหมั่นระแวดระวังให้ดี พลังอำนาจของมันช่างดึงดูดใจ และเจตจำนงอันดีงามจะปูทางไปสู่นรกมอดไหม้ได้


    
    สำหรับ The Lords of Hell เป็นธีมแรกที่ยกกลับมาและเป็นซีซั่นแรกที่เริ่มใช้ซีซั่นธีมเก่าเพราะเกมเข้าช่วง Maintenance อย่างเต็มตัวแล้ว รายละเอียดไม่ต่างจากที่ได้พบใน Season 25 เลย แต่ถ้าใครจำไม่ได้ เรามาทบทวนความจำกันอีกที

        Great Evils คือชื่อที่เรียกจ้าวอสูรทั้ง 7 แห่งนรกมอดไหม้ (The Burning Hell) ที่ทุกคนรู้จักกันดี อันประกอบไปด้วย 3 Prime Evils และ 4 Lesser Evils และแน่นอน Soul Shards ของซีซั่นนี้ก็อิงมาจากจ้าวอสูรทั้ง 7 นั่นเอง
  • Prime Evils
    • Mephisto - Shard of Hatred 
    • Diablo - Sliver of Terror
    • Baal - Fragment of Destruction
  • Lesser Evils
    • Andariel - Essence of Anguish 
    • Duriel - Remnant of Pain 
    • Belial - Dregs of Lies 
    • Azmodan - Stain of Sin 
        ผู้ใดครอบครองจะได้พลังอันยิ่งใหญ่และมีผลกับรูปแบบการเล่น ยิ่งพัฒนาไประดับสูงขึ้นเท่าไหร่ยิ่งมีผลกับรูปแบบการเล่นเยอะมาก หากใช้ Soul Shard ที่เหมาะสมกับตนเอง จะกลายเป็นพลังอันยิ่งใหญ่สามารถฝ่าฟันขึ้นไประดับสูงอย่างแท้จริง

        จากนี้ไปคือคุณสมบัติของ Soul Shards ใน Season 30 มีอะไรบ้างมาดูกัน

    ความรู้พื้นฐานของ Soul Shards
  • Soul Shards จัดว่าเป็น Socket Items ของซีซั่นนี้ 
  • Soul Shards จะแบ่งเป็น 2 ชุด ได้แก่ Prime Evils (ศีรษะ) และ Lesser Evils (อาวุธ)
  • Soul Shards สามารถตกจากที่ไหนก็ได้
  • แต่ Soul Shards มีโอกาสตกมากขึ้นเมื่อฆ่าศัตรูระดับบอสสำเร็จ
  • เมื่อ Soul Shards ตก จะมีเสาแสงสีแดงเข้มพร้อมวิญญาณวนเวียน มีไอคอนเฉพาะเป็นของตนเอง
  • การสวมใส่ สามารถใส่ Prime Evil 1 ชิ้น และ Lesser Evil 1 ชิ้นพร้อมกันได้เท่านั้น
  • ไม่สามารถแลกเปลี่ยน Soul Shards ระหว่างผู้เล่นได้
  • หากนำ Soul Shard ไปทุบทิ้งจะได้ 3 Imperial Gems และมีโอกาสเล็กน้อยที่จะได้ 1 Flawless Royal Gem มาแทน
  • Soul Shards จะตกเฉพาะในซีซั่นธีม The Lords of Hell เท่านั้น จบซีซั่นเมื่อไหร่ Soul Shards ทั้งหมดจะถูกลบทิ้ง


    เกี่ยวกับการอัพเกรด Soul Shards
  • Soul Shards สามารถอัพเกรดได้ด้วยไอเทมที่ชื่อ Hellforge Ember
  • Hellforge Ember สามารถตกจากที่ไหนก็ได้เช่นเดียวกับ Soul Shards
  • Soul Shard แต่ละอันสามารถอัพเกรดได้ 3 ระดับ
  • การอัพเกรดขั้นแรกจะล็อคความสามารถตายตัวและสุ่มค่าพลัง
  • การอัพเกรดขั้นที่สองจะสุ่มความสามารถตามหมวดหมู่ที่ล็อคไว้ 
  • การอัพเกรดขั้นสุดท้ายของ Soul Shards ทุกชิ้นจะสุ่ม 1 ใน 3 พลังเฉพาะของมัน
  • ความสามารถขั้นสุดท้ายจะสอดคล้องกับ Base Power ของ Soul Shards ชิ้นนั้น
  • สามารถนำไปใช้เข้าสูตร Caldesann's Despair โดยค่าพลังที่ได้รับขึ้นอยู่กับระดับการอัพเกรดของ Soul Shards ที่ใช้กับสูตร
    • No Rank = 50
    • Rank 1 = 75
    • Rank 2 = 100
    • Rank 3 = 125




        ส่วนนี้คือความสามารถที่ได้หลังอัพเกรด ซึ่งจะแยกตามตำแหน่งว่าเป็น Soul Shards ส่วนไหน อย่างที่บอก ขั้นแรกจะล็อคตายตัวว่าได้อะไรบ้างแล้วสุ่มเลขพลังที่ได้ ส่วนขั้นสองจะเป็นการสุ่มระหว่างสองหมวดซึ่งกว้างพอสมควร

    Prime Evils Soul Shards (Helm) 
  • Rank 1
    • % Life (เพิ่มขีดจำกัดพลังชีวิต)
    • Cooldown Reduction (ลดระยะเวลาใช้ทักษะใหม่)
    • Cost Reduction (ลดค่าพลังงานที่ใช้ของทักษะ)
    • % Extra Gold (เพิ่มทองที่ได้รับ) 
    • % Experience (เพิ่มค่าประสบการณ์ที่ได้รับ)
  • Rank 2
    • Core Stat (ค่าพลังหลัก) หรือ Defensive Property (ค่าพลังสายป้องกัน)
    Lesser Evils Soul Shards (Weapon)
  • Rank 1
    • + Damage (เพิ่มพลังโจมตีอาวุธ)
    • Critical Hit Damage % (เพิ่มพลังโจมตีคริติคอล)
    • Damage against elites % (เพิ่มพลังโจมตีอีลิธ)
    • + Life per Hit (ฟื้นพลังชีวิตเมื่อโจมตีโดนศัตรู)
    • + Thorns Damage (สะท้อนความเสียหาย)
  • Rank 2
    • % Element Damage (เพิ่มพลังโจมตีธาตุ) หรือ Offensive Property (ค่าพลังสายโจมตี)
        และนับจากนี้ไปจะเป็นความสามารถพื้นฐานและความสามารถอัพเกรดขั้นสุดท้ายของ Soul Shards ทุกชิ้นนั่นเอง สามารถดูจากในรูปได้เลย








        ทั้งหมดนั่นคือข้อมูลของ Soul Shards ที่ทุกคนจะได้เล่นกันในซีซั่นธีม The Lords of Hell การหา Soul Shards ที่เหมาะสมกับตนเองอาจต้องใช้เวลาเพราะ Soul Shards ที่ดีที่สุดต้องมีความสามารถจากการอัพเกรดขั้นสองและขั้นสุดท้ายที่สอดคล้องกับสายที่เล่นจึงจะได้ผลลัพธ์ที่ดีที่สุด 


        กลับมาที่ของรางวัลซีซั่นกัน Haedrig's Gift และ Cosmetic Rewards ยังคงมีเช่นเดิม แต่จะไม่ได้มี Guardian Rewards เหมือนที่ผ่านมา ซึ่งก็ไม่แน่ใจในจุดนี้ว่าอนาคตจะยังคงมีอีกไหม ต้องรอดูกันต่อไป เพราะถ้าหากไม่มีนำกลับมาเลย ผู้เล่นเก่าที่ไม่ได้เก็บมาหมดก่อนหรือผู้เล่นใหม่ได้กร่อยกันแน่ ๆ 

        หลังจบ 4 บทแรกของ Season Journey คุณจะได้รับเซ็ตไอเทมประจำคลาสดังต่อไปนี้

  • Inna's Mantra (Monk)
  • Embodiment of the Marauder (Demon Hunter)
  • The Legacy of Raekor (Barbarian)
  • Delsere's Magnum Opus (Wizard)
  • Armor of Akkhan (Crusader)
  • Zunimassa's Haunt (Witch Doctor)
  • Pestilence Master's Shroud (Necromancer)
        เซ็ตที่จะเล่นง่ายใน Hardrig's Gift เรียกได้ว่าเยอะอยู่ เว้นแต่ The Legacy of Raekor และ Armor of Akkhan แต่ถ้าแนะนำเล่นง่ายจริง ๆ ก็เล่น Wizard ง่ายสุด เพราะ Delsere's Magnum Opus ตั้งแต่ถูกออกแบบใหม่ก็ใช้ง่ายมาก แถมแพทช์นี้ยังเพิ่มพลังโจมตีเข้าไปอีก

        ส่วนรางวัลเล่าใหม่เป็นของ Season 6 ดั้งเดิม ประกอบด้วยชุดจำแลงรูปลักษณ์เซ็ต Conqueror ที่เจอกันทุกซีซั่น กรอบภาพประจำตัวและธงชาย อย่างที่บอก รอบนี้ไม่มี Guardian Rewards ทั้ง ๆ ที่ซีซั่นที่แล้วมี Galactic Wings และมันควรมีตามมาหลังจากนั้นอีกแต่ไม่มีมาด้วยก็จะรู้สึกไม่ปลื้มเท่าไหร่

  • รูปลักษณ์จำแลง Conqueror's Cuirass (ลำตัว) และ Conqueror's Gauntlets (มือ) 
  • Blood Shard Portrait Frame Set  หลังจากจบ Season Journey 4 บทแรก เป็นต้นไป
  • ธงชาย Samhain หลังจากจบ Season Journey 4 บทแรก
        รางวัลซีซั่น ณ ตอนนี้มีอยู่แค่นี้ ต้องรอดูในอนาคตว่าจะนำ Guardian Rewards กลับมาอีกไหม



        ไม่มีซีซั่นไหนที่ภารกิจพิชิตชัยจะง่ายไปกว่านี้อีกแล้ว เพราะเป็นภารกิจทางผ่านถึง 2 ชุดด้วยกันเลย และที่เหลือก็ไม่ได้ยากแถมเป็นระดับที่ทำด้วยตัวละครเดียวจนครบหมด เริ่มตั้งแต่คู่ทางผ่าน On A Good Day & I Can't Stop และ Divinity & Lionhearted ที่เหลือก็ไม่ยากแล้ว ทั้ง Speed Demon & Need for Speed, Boss Mode & Worlds Apart, และ Curses! & Stars Align

  • Speed Demon (Seasonal) & Need For Speed (Hardcore Seasonal) 
    • พิชิต Nephalem Rift ณ เลเวลสูงสุดบนระดับความยาก Torment X หรือสูงกว่า ในเวลา 2 นาที (นับถึงปิดริฟท์)
  • On A Good Day (Seasonal) & I Can't Stop (Hardcore Seasonal) 
    • อัพเกรด Legendary Gems ให้ถึงระดับ 65 เป็นจำนวน 3 เม็ด
  • Boss Mode (Seasonal) & Worlds Apart (Hardcore Seasonal) 
    • กำจัดบอสที่กำหนดขณะเลเวลสูงสุด (เลเวลพื้นฐาน 70) บนระดับความยาก Torment X หรือสูงกว่า ในเวลา 20 นาทีนับตั้งแต่เริ่มเกมรอบนั้น
  • Divinity (Seasonal) & Lionhearted (Hardcore Seasonal)
    • พิชิต Greater Rift ระดับ 75 เดี่ยว
  • Curses! (Seasonal) & Stars Align (Hardcore Seasonal) 
    • กำจัดศัตรู 350 ตนหรือมากกว่าในอีเวนท์ Cursed Chest ขณะเลเวลสูงสุดบนระดับความยาก Torment X หรือสูงกว่า


        Season 30 เป็นซีซั่นแรกที่แนะนำเกมหลังเข้าสู่ระยะ Maintenance ของจริงแล้ว เพราะฉะนั้นข้อมูลเกมส่วนใหญ่จะถือว่านิ่งและหลังจากนี้อาจไม่มีอะไรอัพเดตมาอีกแล้ว ที่ต้องติดตามจริง ๆ หลังจากนี้ก็เหลือแค่ดูว่าซีซั่นธีมที่จะนำมาเป็นของซีซั่นไหน ซึ่งก็จะอัพเดตอีกทีว่ามีธีมไหนมีโอกาสกลับมาบ้าง

        ที่ควรจับตาดูอีกอย่างคือดูว่าระยะเวลาของซีซั่นจะหมุนระหว่างภาคไหนไหม เพราะตอนนี้เหมือนจะมีหมุนเวียนสับกันเริ่มและจบซีซั่นระหว่างภาค 2R, 3 และ 4 จะมีการจัดตารางซีซั่นให้เวียนยังไง น่าสนใจอยู่


    สำหรับกำหนดการมาของ Season 30 - The Lords of Hell เป็นไปตามนี้ครับ
  • The Americas*: วันเสาร์ที่ 13 มกราคม 2024 เวลา 08:00 น.
  • Europe*: วันศุกร์ที่ 12 มกราคม 2024 เวลา 23:00 น.
  • Asia: วันศุกร์ที่ 12 มกราคม 2024 เวลา 15:00 น.
    เวลาทั้งหมดปรับโซนเวลาเป็นเวลาตามพื้นที่ประเทศไทยแล้ว
    สำหรับเครื่องคอนโซลในประเทศไทยจะถูกจัดและยึดเวลาตาม The Americas 

    * เวลาอาจมีการคลาดเคลื่อนเล็กน้อย ขึ้นกับโซนเวลาแต่ละพื้นที่ 
       โซนเวลาที่ใช้คือ PST (The Americas) และ CET (Europe) ซึ่งปรับตามพื้นที่จริงในขณะนี้ 

ความคิดเห็น

บทความที่ได้รับความนิยม